Loading

 

ซินาหรือผิดประเวณีนั้นเป็นที่ต้องห้าม

ซินาหรือผิดประเวณีนั้นเป็นที่ต้องห้าม

 

การสรรเสริญทั้งมวลเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ การสดุดีและความศานติจงมีแด่ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ฉันขอปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ควรได้รับการภักดีนอกจากอัลลอฮฺเพียงผู้เดียว โดยไม่มีภาคีหุ้นส่วนอันใดสำหรับพระองค์ และฉันขอปฏิญาณว่าท่านนบีมุหัมมัดคือบ่าวของอัลลอฮฺและเป็นศาสนทูตของพระองค์...

อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

﴿ وَٱلَّذِينَ لَا يَدۡعُونَ مَعَ ٱللَّهِ إِلَٰهًا ءَاخَرَ وَلَا يَقۡتُلُونَ ٱلنَّفۡسَ ٱلَّتِي حَرَّمَ ٱللَّهُ إِلَّا بِٱلۡحَقِّ وَلَا يَزۡنُونَۚ وَمَن يَفۡعَلۡ ذَٰلِكَ يَلۡقَ أَثَاما ٦٨ يُضَٰعَفۡ لَهُ ٱلۡعَذَابُ يَوۡمَ ٱلۡقِيَٰمَةِ وَيَخۡلُدۡ فِيهِۦ مُهَانًا ٦٩ ﴾   ] الفرقان : 68- 69  [

ความว่า “และบรรดาผู้ที่ไม่วิงวอนขอพระเจ้าอื่นใดคู่เคียงกับอัลลอฮ และพวกเขาไม่ฆ่าชีวิตซึ่งอัลลอฮทรงห้ามไว้ เว้นแต่เพื่อความยุติธรรม และพวกเขาไม่ผิดประเวณี และผู้ใดกระทำเช่นนั้น เขาจะได้พบกับความผิดอันมหันต์  การลงโทษในวันกิยามะฮฺจะถูกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าสำหรับเขา และเขาจะอยู่ในนั้นอย่างอัปยศ” (อัล-ฟุรกอน : 68-69 )

 

อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ได้ตรัสอีกว่า

﴿ وَٱلَّذِينَ هُمۡ لِفُرُوجِهِمۡ حَٰفِظُونَ ٥ إِلَّا عَلَىٰٓ أَزۡوَٰجِهِمۡ أَوۡ مَا مَلَكَتۡ أَيۡمَٰنُهُمۡ فَإِنَّهُمۡ غَيۡرُ مَلُومِينَ ٦ فَمَنِ ٱبۡتَغَىٰ وَرَآءَ ذَٰلِكَ فَأُوْلَٰٓئِكَ هُمُ ٱلۡعَادُونَ ٧ ﴾  ] المؤمنون : 5 - 7[

ความว่า “และบรรดาผู้ที่พวกเขาเป็นผู้รักษา (ไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ของ) อวัยวะเพศของพวกเขา (โดยไม่ผิดประเวณี) เว้นแต่แก่บรรดาภรรยาของพวกเขา หรือที่มือขวาของพวกเขาครอบครอง (คือทาสี) ในกรณีเช่นนั้นพวกเขาจะไม่ถูกตำหนิ  ฉะนั้นผู้ใดแสวงหาอื่นจากนี้ ชนเหล่านั้นพวกเขาก็เป็นผู้ละเมิด” (อัล-มุอฺมินูน : 5-7)

 

อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ได้ตรัสอีกว่า

﴿ وَلَا تَقۡرَبُواْ ٱلزِّنَىٰٓۖ إِنَّهُۥ كَانَ فَٰحِشَة وَسَآءَ سَبِيلا ٣٢﴾   ]الإسراء : 32[

ความว่า “และพวกเจ้าอย่าเข้าใกล้การผิดประเวณี แท้จริงมันเป็นการลามกและทางอันชั่วช้า” (อัล-อิสรออฺ : 32)

 

บรรดาโองการที่กล่าวมาข้างต้นบ่งชี้ถึงคุณลักษณะของบ่าวผู้ศรัทธามั่นต่ออัลลอฮฺด้วยคุณลักษณะที่ดีงามยิ่ง เช่น ไม่ตั้งภาคีด้วยการภักดีต่อพระเจ้าอื่นร่วมกับอัลลอฮฺ ไม่คร่าชีวิตของผู้อื่น และรักษาอวัยวะเพศจากการกระทำชั่วช้าลามก

และอัลลอฮฺได้เตือนผู้ที่ละเมิดไปกระทำสิ่งเหล่านี้ด้วยกับโทษอันมหันต์และการลงโทษในไฟนรกที่ทวีคูณและน่าอัปยศยิ่งนักหากเขาไม่กลับเนื้อกลับตัว และประกอบคุณงามความดีหลังจากนั้น ดังที่พระองค์ตรัสว่า

﴿ وَٱلَّذِينَ لَا يَدۡعُونَ مَعَ ٱللَّهِ إِلَٰهًا ءَاخَرَ وَلَا يَقۡتُلُونَ ٱلنَّفۡسَ ٱلَّتِي حَرَّمَ ٱللَّهُ إِلَّا بِٱلۡحَقِّ وَلَا يَزۡنُونَۚ وَمَن يَفۡعَلۡ ذَٰلِكَ يَلۡقَ أَثَاما ٦٨ يُضَٰعَفۡ لَهُ ٱلۡعَذَابُ يَوۡمَ ٱلۡقِيَٰمَةِ وَيَخۡلُدۡ فِيهِۦ مُهَانًا ٦٩ إِلَّا مَن تَابَ وَءَامَنَ وَعَمِلَ عَمَلا صَٰلِحا فَأُوْلَٰٓئِكَ يُبَدِّلُ ٱللَّهُ سَيِّ‍َٔاتِهِمۡ حَسَنَٰتۗ وَكَانَ ٱللَّهُ غَفُورا رَّحِيما ٧٠ وَمَن تَابَ وَعَمِلَ صَٰلِحا فَإِنَّهُۥ يَتُوبُ إِلَى ٱللَّهِ مَتَابا ٧١ ﴾   ] الفرقان : 68-71 [

ความว่า “และบรรดาผู้ที่ไม่วิงวอนขอพระเจ้าอื่นใดคู่เคียงกับอัลลอฮ และพวกเขาไม่ฆ่าชีวิตซึ่งอัลลอฮทรงห้ามไว้ เว้นแต่เพื่อความยุติธรรม และพวกเขาไม่ผิดประเวณี และผู้ใดกระทำเช่นนั้น เขาจะได้พบกับความผิดอันมหันต์  การลงโทษในวันกิยามะฮฺจะถูกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าสำหรับเขา และเขาจะอยู่ในนั้นอย่างอัปยศ  เว้นแต่ผู้ที่กลับเนื้อกลับตัว และศรัทธาและประกอบการงานที่ดี เขาเหล่านั้นแหละอัลลอฮจะทรงเปลี่ยนความชั่วของพวกเขาเป็นความดี และอัลลอฮเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ และผู้ใดกลับเนื้อกลับตัวและกระทำความดี แท้จริงเขากลับเนื้อกลับตัวเข้าหาอัลลอฮอย่างจริงจัง” (อัล-ฟุรกอน : 68-71)

 

อนึ่งการทำซินา (ผิดประเวณี) เป็นความผิดอันมหันต์ (บาปใหญ่) โดยที่อัลลอฮฺกล่าวพร้อมกับการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ และการฆ่าชีวิตผู้อื่น เนื่องจากมีผลกระทบต่อระบบครอบครัว ทำลายระบบวงศ์ตระกูลของมนุษย์โดยสิ้นเชิง ละเมิดข้อห้ามของอัลลอฮฺ เป็นการจุดไฟแห่งความโกรธแค้นและการเป็นศัตรู เป็นการสร้างความเสียหายแก่ภรรยา ลูกสาว พี่สาว น้องสาวของผู้อื่น และเป็นการสร้างความเสียหายบนหน้าแผ่นดินนี้

ด้วยเหตุนี้อิสลามจึงกำหนดบทลงโทษโทษอย่างหนักแก่ผู้ผิดประเวณีที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว นั่นคือ ด้วยการฆ่าสถานเดียว และรูปแบบการฆ่าที่แตกต่างไปจากความผิดอื่นๆ นั่นคือการฝังครึ่งตัวแล้วขว้างด้วยก้อนหินจนกระทั่งเสียชีวิต   

ท่านอิหม่ามอัล-บุคอรียฺและอิหม่ามมุสลิมได้บันทึกหะดีษจากท่านอับดุลลอฮฺ อิบนู มัสอูด เล่าว่า      ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า

« لاَ يَحِلُّ دَمُ امْرِئٍ مُسْلِمٍ يَشْهَدُ أَنْ لاَ إِلَهَ إِلاَّ اللَّهُ وَأَنِّي رَسُولُ اللَّهِ إِلاَّ بِإِحْدَى ثَلاَثٍ: الثَّيِّبُ الزَّانِي، وَالنَّفْسُ بِالنَّفْسِ، وَالتَّارِكُ لِدِينِهِ الْمُفَارِقُ لِلْجَمَاعَةِ » [البخاري برقم 6878، ومسلم برقم 1676]

ความว่า “ไม่อนุญาตแก่ผู้ใดที่จะฆ่าชีวิตของมุสลิมที่กล่าวปฏิญาณว่าอัลลอฮฺเป็นพระเจ้าของเขา และฉันเป็นศาสนทูตของอัลลอฮฺ เว้นแต่หนึ่งในสามกรณีต่อไปนี้ คือ ผู้ผิดประเวณีที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว ผู้ที่ฆ่าชีวิตผู้อื่น และผู้ที่มุรตัดออกจากศาสนาอิสลาม” (บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หมายเลข : 6878 และมุสลิม หมายเลข : 1676)

 

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ยังได้ระบุความเสียหายแก่ผู้ที่นำพาตนเองลงสู่บ่วงแห่งการซินาว่าเขาผู้นั้นมีศรัทธาที่อ่อนมากขณะที่เขาทำซินา

«لَا يَزْنِي الزَّانِي حِينَ يَزْنِي وَهُوَ مُؤْمِنٌ» [البخاري برقم 6809]

ความว่า “ผู้ผิดประเวณีจะไม่ทำผิดประเวณีในขณะที่เขาเป็นผู้ศรัทธา ณ เวลาที่เขากระทำการผิดประเวณีอยู่นั้น”  (บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หมายเลข : 6809)

           

และอิหม่ามอัล-บุคอรียฺได้รายงานหะดีษในคืนที่ท่านนบีอิสรออฺและเมี๊ยะรอจว่า

 

«جَاءَ جِبْرِيْلُ وَمِيْكاَئِيْلُ إِلَى النَّبِيِّ صلى الله عليه وسلم قال : فَانْطَلَقَا فَأَتَيَا عَلىَ مِثْلِ التَّنُّوْرِ، وَأَحْسِبُ أَنَّهُ كَانَ يَقُولُ : فَإِذَا فِيْهِ لَغَطٌ وَأَصْوَاتٌ . قال : فَانْطَلَقْنَا فِيْهِ فَإِذَا فِيْهِ رِجَالٌ وَنِسَاءٌ عُرَاةٌ ، فَإِذَا هُمْ يَأْتِيْهِمْ لَهَبٌ مِنْ أَسْفَلَ مِنْهُمْ ، فَإِذَا أَتَاهُم ذَلِكَ اللَّهَبُ ضَوْضَوْا،  أي صَاحُوا مِنْ شِدَّةِ الحَرِّ ، فَقُلْتُ : مَنْ هَؤُلَاءِ يَا جِبْرِيلُ ؟ قَالَ : هَؤُلَاءِ الزُّنَاةُ والزَوَانِيُ ».  [رواه البخاري برقم 7048]

ความว่า “มะลักญิบรีล และมีกาอีลได้มาหาท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม แล้วทั้งสองนำท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งคล้ายเตาเผา ผู้รายงานพูดว่า ฉันคิดว่าท่านได้พูดว่า ” ทันใดนั้นมีเสียงดังกึกก้องเล็ดลอดออกมา เรามองเห็นกลุ่มคนทั้งผู้ชายและผู้หญิงในสภาพที่เปลือยกาย โดยที่มีไฟเผาไหม้จากเบื้องล่างของพวกเขา เมื่อไฟได้เผามาถึง พวกเขาก็ร้องโอดครวญด้วยเสียงที่ดังทรมาน เนื่องจากความร้อนจัดของไฟ ฉันจึงถามญิบรีลว่า พวกเขาเหล่านั้นเป็นใครกัน? ญิบรีลบอกว่า พวกเขาคือผู้ที่ทำผิดประเวณีทั้งผู้ชายและผู้หญิง” (บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หมายเลข : 7048)

           

ด้วยเหตุนี้ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จึงได้ทำสัญญากับบรรดาสาวกของท่านว่าอย่าได้ถลำตัวลงไปกระทำความชั่วชนินี้ อุบาดะฮฺ อิบนุ ศอมิต เล่าว่า ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวกับสาวกกลุ่มหนึ่งของท่านว่า

«بَايِعُونِي عَلَى أَنْ لَا تُشْرِكُوا بِاللَّهِ شَيْئًا، وَلَا تَسْرِقُوا وَلَا تَزْنُوا» [البخاري برقم 18، ومسلم برقم 1709]

ความว่า “ท่านทั้งหลายพึงสัญญากับฉันเถิดว่าจะไม่มีการตั้งภาคีใดๆ ร่วมกับอัลลอฮฺ และจะไม่ลักขโมย และจะไม่ผิดประเวณี” (บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หมายเลข : 18 และมุสลิม หมายเลข : 1709)

 

อิหม่ามอะหมัด อิบนุ หัมบัล กล่าวว่า “ฉันไม่เห็นว่าหลังจากการฆ่าชีวิตผู้อื่นแล้วจะมีบาปอันใดที่ยิ่งใหญ่มากไปกว่าการผิดประเวณี”

            อิหม่ามอัล-มุนซิรียฺ กล่าวว่า “มีหลักฐานยืนยันว่าผู้ที่ดื่มสุราเป็นนิจเมื่อจบชีวิตลง โทษของเขาไม่ต่างไปจากผู้ที่กราบไหว้เทวรูป แต่ผู้ที่ผิดประเวณีจะถูกลงโทษอย่างหนักยิ่งไปกว่าโทษการดื่มสุรา”

 

สื่อที่นำไปสู่การผิดประเวณี

            เมื่ออัลลอฮฺได้ห้ามการผิดประเวณี พระองค์จึงห้ามการกระทำใดๆ ที่เป็นหนทางนำไปสู่การผิดประเวณีด้วย อาทิเช่น

1.     

ห้ามการมองเพศตรงข้าม

อัลลอฮฺ สุบหานะฮุวะตะอาลา ได้ตรัสว่า

﴿ قُل لِّلۡمُؤۡمِنِينَ يَغُضُّواْ مِنۡ أَبۡصَٰرِهِمۡ وَيَحۡفَظُواْ فُرُوجَهُمۡۚ ذَٰلِكَ أَزۡكَىٰ لَهُمۡۚ إِنَّ ٱللَّهَ خَبِيرُۢ بِمَا يَصۡنَعُونَ ٣٠ ﴾   ] النور : 30[

ความว่า “จงกล่าวเถิด (มุหัมมัด) แก่บรรดามุอฺมิน ให้พวกเขาลดสายตาของพวกเขาลงต่ำ และให้พวกเขารักษาอวัยวะเพศของพวกเขา นั่นเป็นการบริสุทธิ์ยิ่งแก่พวกเขา แท้จริงอัลลอฮฺทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเขากระทำ” (อัล-นูร : 30 )

 

อนึ่งการมองนั้นเกิดขึ้นได้ในหลายๆ โอกาส เช่น ในตลาด ในสถานที่สาธารณะ ตามสื่อต่างๆ เป็นต้น

 

2.     

ห้ามสตรีออกจากบ้านด้วยชุดแต่งกายที่เย้ายวน หรือใช้สิ่งที่มีกลิ่นหอมหวนชวนชม

อัลลอฮฺ สุบหานะฮุวะตะอาลา ได้ตรัสอีกว่า

﴿ وَقَرۡنَ فِي بُيُوتِكُنَّ وَلَا تَبَرَّجۡنَ تَبَرُّجَ ٱلۡجَٰهِلِيَّةِ ٱلۡأُولَىٰۖ ﴾  ] الأحزاب : 33[

ความว่า “และจงอยู่ในบ้านเรือนของพวกเธอและอย่าได้โอ้อวดความงาม (ของพวกเธอ) ดังเช่นการอวดความงาม (ของพวกสตรี) ในสมัยงมงายยุคก่อน” (อัล-อะหฺซาบ : 33)

 

3.     

ห้ามผู้ชายที่ไม่ใช่มะหฺร็อมเข้าไปหาผู้หญิง

และผู้ชายที่อันตรายต่อผู้หญิงมากที่สุด ได้แก่ผู้ชายที่เป็นคนใกล้ชิดของสามี และญาติๆ ของบิดามารดาของนาง เพราะพวกเขาเหล่านั้นสามารถเข้าออกในบ้านได้อย่างสะดวกและไม่เป็นที่สงสัย ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จึงกำชับเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดว่า

«إِيَّاكُمْ وَالدُّخُولَ عَلَى النِّسَاءِ» فَقَالَ رَجُلٌ مِنْ الْأَنْصَارِ : يَا رَسُولَ اللَّهِ أَفَرَأَيْتَ الْحَمْوَ ؟ قَالَ : «الْحَمْوُ الْمَوْتُ». [البخاري برقم 5232، ومسلم برقم 2172]

ความว่า “ท่านทั้งหลายอย่าได้เข้าไปหาเหล่าสตรีเลย ชายชาวอันศอรคนหนึ่งถามว่า แล้วญาติฝ่ายชายของสามีล่ะเข้าได้หรือเปล่า? ท่านตอบว่า ญาติฝ่ายชายของสามีก็เช่นเดียวกับความตาย” (ในเมื่อความตายย่างกรายเข้ามาโดยไม่รู้ตัวฉันใด อันตรายของพี่หรือน้องชายสามีก็อันตรายฉันนั้น-ผู้แปล) (บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หมายเลข : 5232 และมุสลิม หมายเลข : 2172)

 

4.     

การพิพากษาที่ไม่เป็นธรรม

พฤติกรรมของศาลตัดสินในบางสังคมที่นำกฎหมายมาใช้กับผู้ที่อ่อนแอ แต่ละเว้นจากผู้มีอำนาจ หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม “กฎหมายสองมาตรฐาน” อันนี้ถือว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้การผิดประเวณีเกลื่อนบ้านเกลื่อนเมือง พฤติกรรมเช่นนี้เป็นพฤติกรรมของชาวคัมภีร์ก่อนหน้าพวกเรา ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จึงกล่าวว่า

«إِنَّمَا أَهْلَكَ الَّذِينَ قَبْلَكُمْ أَنَّهُمْ كَانُوا إِذَا سَرَقَ فِيهِمْ الشَّرِيفُ تَرَكُوهُ، وَإِذَا سَرَقَ فِيهِمْ الضَّعِيفُ أَقَامُوا عَلَيْهِ الْحَدَّ» [البخاري برقم 3475، ومسلم برقم 700]

ความว่า “แน่แท้กลุ่มชนที่มาก่อนหน้าพวกเจ้าถูกทำลายมาแล้ว อันเนื่องจากพวกเขาไม่ดำเนินคดีแก่พวกเจ้าขุนมูลนายที่ลักขโมย แต่จะดำเนินคดีกับคนที่อ่อนแอในสังคม” (บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หมายเลข : 3475 และมุสลิม หมายเลข : 700)

 

5.     

คนหนุ่มสาวแต่งงานล่าช้า หรือการแต่งงานที่แสนยากลำบาก

ด้วยภาวะสังคมที่เต็มไปด้วยสิ่งยั่วยุทางอารมณ์ หากวัยรุ่นคนใดไม่มีหลักการของศาสนา หรือไม่มีศรัทธาที่คอยควบคุมตัวของเขา เขาอาจตกไปอยู่ในวังวนอันแสนชั่วนี้ได้ ซึ่งนำไปสู่การเสียศักดิ์ศรีในโลกนี้ และความทรมานในโลกหน้า ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า

« يَا مَعْشَرَ الشَّبَابِ مَنْ اسْتَطَاعَ مِنْكُمْ الْبَاءَةَ فَلْيَتَزَوَّجْ، فَإِنَّهُ أَغَضُّ لِلْبَصَرِ وَأَحْصَنُ لِلْفَرْجِ».  رواه البخاري ومسلم

ความว่า “โอ้หนุ่มสาว ผู้ใดที่มีความสามารถจะแต่งงานได้ พึงแต่งงานเถิด เพราะการแต่งงานช่วยลดสายตาได้อย่างดีเยี่ยม และช่วยรักษาอวัยวะเพศได้อย่างดียิ่ง” (บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หมายเลข : 5066 และมุสลิม หมายเลข : 1400)

 

และท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวอีกว่า

«إِذَا خَطَبَ إِلَيْكُمْ مَنْ تَرْضَوْنَ دِينَهُ وَخُلُقَهُ فَزَوِّجُوهُ، إِلَّا تَفْعَلُوا تَكُنْ فِتْنَةٌ فِي الْأَرْضِ وَفَسَادٌ عَرِيضٌ».  رواه الترمذي

ความว่า “เมื่อมีผู้ที่พวกท่านพอใจในศาสนาและมารยาทของเขามาสู่ขอบุตรสาวของท่าน พึงแต่งงานแก่เขาเถิด มิเช่นนั้นจะก่อให้เกิดฟิตนะฮฺและเป็นบ่อนทำลายบนหน้าแผ่นดินอย่างถ้วนหน้า” (บันทึกโดยอัต-ติรมิซียฺ หมายเลข : 1084)

 

6.     

เครื่องดนตรี และเสียงเพลงมีเกลื่อนเมือง

เมือเครื่องดนตรีและสิ่งเย้ายวนมีกระจายอยู่เต็มบ้านเมือง ละครน้ำเน่าและเสียงเพลง ก็จะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่เป็นสื่อนำไปสู่การผิดประเวณีไปในทุกแห่งหนของสังคม อัลลอฮฺ สุบหานะฮุวะตะอาลา ได้ตรัสว่า

﴿ إِنَّ ٱلَّذِينَ يُحِبُّونَ أَن تَشِيعَ ٱلۡفَٰحِشَةُ فِي ٱلَّذِينَ ءَامَنُواْ لَهُمۡ عَذَابٌ أَلِيم فِي ٱلدُّنۡيَا وَٱلۡأٓخِرَةِۚ وَٱللَّهُ يَعۡلَمُ وَأَنتُمۡ لَا تَعۡلَمُونَ ١٩ ﴾  ] النور : 19[

ความว่า “แท้จริงบรรดาผู้ชอบที่จะให้เรื่องบัดสีแพร่หลายไปในกลุ่มของผู้ศรัทธานั้น พวกเขาจะได้รับการลงโทษอย่างเจ็บปวดทั้งในโลกนี้และโลกหน้า และอัลลอฮฺทรงรอบรู้ยิ่งโดยที่พวกเจ้าไม่รู้” (อัล-นูร : 19)

 

7.     

สามีไม่มีความสื่อสัตย์ต่อภรรยา

สามีบางคนไม่มีความซื่อสัตย์ต่อภรรยาด้วยการไปมีเพศสัมพันธุ์กับหญิงอื่นโดยผิดหลักการ อันเป็นเหตุทำให้ภรรยาบางคนประชดด้วยการแอบไปมีชู้ หรือมอบกายแก่ผู้ชายอื่นเช่นกัน มีคติสอนใจจากบทกวีหนึ่งว่า

“ชายใดที่วางตัวอย่างไร้ค่า      ทำสิ่งที่ต่ำช้าน่าบัดสี

ยอมเสียค่าซินาอันมากมี      ยังเป็นหนี้ที่ต้องชดอย่างเฉียบพลัน

พึงรำลึกเถิดว่าในคืนวัน          ถูกโดนตีท้ายครัวแค่ร้อยเดียว”

            พี่น้องที่มีเกียรติ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้จากสามีที่ฝ่าฝืนคำสั่งของอัลลอฮฺด้วยการทำตัวชั่วช้าลามก ผิดประเวณีกับผู้ที่ไม่ใช่ภรรยาของตนเอง ดังนั้นใครก็แล้วแต่ที่ประพฤติเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีเขาจะได้รับการตอบแทนในความผิดที่กระทำไว้อย่างสาสม และรับผลความผิดของผู้ที่ปฏิบัติตามเขาด้วยอีกเช่นกัน โดยที่ผลตอบแทนของผู้กระทำไม่ได้ลดหย่อนลงแต่อย่างใดเลย

 

เตือนภัย.. โทรศัพท์กล้องถ่าย

ปัจจุบันมีโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่มีกล้องถ่ายในตัว เป็นเทคโนโลยีที่อันตรายอย่างมาก ผู้หญิงบางคนถ่ายรูปหรือวิดีโอตัวเองลงไป แล้วกลายเป็นภาพหลุดที่สร้างความเสื่อมเสียต่อเกียรติประวัติและศักดิ์ศรีของตนเองรวมถึงวงศ์ตระกูล กี่ครอบครัวมาแล้วที่บ้านต้องพังทลาย กี่ครอบครัวมาแล้วที่ต้องแยกร้างกันไป และกี่ปัญหาในชีวิตอันมากมายที่เกิดจากโทรศัพท์เครื่องเล็กๆ นี่เอง จึงเป็นการสมควรที่ผู้ศรัทธาต้องเตือนภรรยาให้ระวังจากการใช้โทรศัพท์ในลักษณะเช่นนี้ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า

«كُلُّكُمْ رَاعٍ فَمَسْئُولٌ عَنْ رَعِيَّتِهِ فَالْأَمِيرُ الَّذِي عَلَى النَّاسِ رَاعٍ وَهُوَ مَسْئُولٌ عَنْهُمْ وَالرَّجُلُ رَاعٍ عَلَى أَهْلِ بَيْتِهِ وَهُوَ مَسْئُولٌ عَنْهُمْ» [البخاري برقم 2554، ومسلم برقم 1829]

ความว่า “ทุกคนมีหน้าที่ๆ ต้องรับผิดชอบ และจะต้องได้รับการสอบสวนในหน้าที่ความรับผิดชอบของเขา ผู้นำต้องรับผิดชอบดูแลผู้อยู่ใต้ปกครอง ซึ่งเขาต้องถูกสอบถามต่อหน้าที่อันนั้น สามีก็ต้องรับผิดชอบดูแลครอบครัวของเขา และต้องถูกสอบสวนในหน้าที่ๆเขารับผิดชอบ” (บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หมายเลข : 2554 และมุสลิม หมายเลข : 1829)

 

................................................

แปลโดย :  อิสมาอีล ซุลก็อรนัยน์ หุเสน

ตรวจทานโดย : ยูซุฟ อบูบักรฺ

คัดลอกจาก http://IslamHouse.com/722525

 

 

 

 

Maintained by: e-Daiyah Group (1429 H - 2008).