Loading

 

เรื่องสำคัญที่ชนแห่งศรัทธาได้ให้ความใส่ใจอย่างที่สุด

เรื่องสำคัญที่สุดที่มีอยู่ในจิตสำนึกของพวกเขาคือ ประโยชน์สูงสุดต้องเกิดขึ้นกับประชาชาติอิสลาม พวกเขาเป็นผู้ที่สนใจจะสถาปนาประชาชาตินี้ให้เป็นชนมุสลิมรุ่นใหม่ มีพลังแห่งอีมานที่หนักแน่น มั่นคง เหมาะสมที่จะขนานนามพวกเขาว่า “ชนในยุคแห่งชัยชนะ” ซึ่งเป็นประการแรกสุดที่ประชาชาติของเราปรารถนา

กลุ่มชนที่หวนกลับคืนสู่แหล่งน้ำเลี้ยงอันพิสุทธิ์แห่งอิสลาม เข้าใจหลักการอย่างถูกต้องครอบคลุม ปราศจากสิ่งแปลกปลอมชั่วร้าย ไม่ใช่คำสอนที่ปนเปื้อนกับความเชื่ออื่นแล้วอ้างว่านั่นคือ “อิสลาม” ซึ่งหลักการเชื่อมั่นเปอะเปื้อนไปด้วยโคลนตมความบิดเบือน อิบาดะฮฺต่าง ๆ ที่พยายามประพฤติปฏิบัติอย่างคร่ำเคร่งต้องสูญเปล่าเพราะศาสนกิจที่อุตริกรรมขึ้นมา(บิดอะฮฺ)โดยไร้ซึ่งความรู้ ตัวตนแห่งความเป็นมุสลิมต้องล่มสลายไปด้วยกับการนำเอาจรรยามารยาทที่ส่อไปทางที่เสื่อมเสียมาประดับไว้แห่งกายตน ละเมิดบทบัญญัติด้วยกับความดื้อด้านส่วนตัว เลียนแบบประเพณีนิยม ยึดติดกับมัซฮับต่าง ๆ ที่ตนได้รับมาจากบรรพบุรุษโดยปราศจากความรู้ที่แท้จริง

“ชนในยุคแห่งชัยชนะ” คือผู้ที่ยึดมั่นอิสลามแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นครรลองเดียวที่ถูกรูปลักษณ์มาจากอัลกุรอาน เป็นอิสลามที่ท่านรอซูลุลลอฮฺเรียกร้อง และบรรดาศอฮาบะฮฺใช้ดำเนินชีวิต เป็นวิถีที่บรรดาคอลีฟะฮฺทั้งหลายเลือกตัดสินและปกครองรัฐ เป็นศาสนาที่ดำรงอยู่บนรากฐานอันสูงส่ง มั่นคงหนักแน่น สร้างปฏิสัมพันธ์จากผืนแผ่นดินสู่ฟากฟ้า นำศาสนามาเป็นวิถีในการขับเคลื่อนดุนยา และพร้อมรวบรวมระหว่างวิทยาการต่าง ๆ กับความเชื่อมั่นศรัทธาในบทบัญญัติอย่างแน่นแฟ้น โดยเชื่อว่า
อิสลาม...คือ สัจธรรม และพลังอันเข้มแข็ง
อิสลาม...คือ ความรู้ที่ถูกต้อง สามารถนำไปสู่การปฏิบัติในชีวิตจริงได้
อิสลาม...คือ การญิฮาด (ต่อสู้-เสียสละ) และทุ่มเทพยายาม
อิสลาม...คือ ศาสนาที่ครอบคลุม และมีดุลยภาพในตัวเอง

อิสลามถูกส่งมาเพื่อตอกย้ำเกียรติระดับปัจเจกชน และสร้างสัมพันธภาพระหว่างครอบครัว ช่วยเหลือค้ำจุนสังคม ปรึกษาหารือในการแก้ปัญหา ส่งเสริมพัฒนากลไกในการผลิต มีความยุติธรรมในการแจกจ่าย และคุ้มครองสิทธิในทุกส่วนของสังคม


อิสลามเป็นศาสนาซึ่งได้กำหนดให้วิถีชีวิตของปัจเจกชนทั้งชีวิตหมดไปเพื่ออัลลอฮฺไม่ผสมผสานกับสิ่งแปลกปลอมอื่น และไม่ขัดแย้งสวนทางกัน อิสลามมีเป้าหมายและกำหนดทิศทางที่ชัดเจน “จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด)ว่า แท้จริง การละหมาดของฉัน การอิบาดะฮฺของฉัน การมีชีวิตอยู่ของฉัน และการตายของฉัน เพื่ออัลลอฮฺพระผู้เป็นเจ้าแห่งสากลโลกเท่านั้น” (อัลอันอาม/162) และเช่นกัน วิถีชีวิตในสังคมทุกการเคลื่อนไหวถูกดำเนินไปเพื่ออัลลอฮฺ และจะไม่ยอมรับแนวคิดการแยกส่วนระหว่างสองขั้วอำนาจ ไม่ได้จำแนกอาณาจักรออกจากศาสนจักร ทั้งสองสามารถรวมอยู่กันได้เพื่ออัลลอฮฺพระองค์เดียว


อิสลามเรียกร้องสู่ความยุติธรรม ถึงแม้ว่าผลประโยชน์จะตกอยู่กับศัตรู ฝ่ายตรงข้ามก็ตาม “และจงอย่าให้การเกลียดชังพวกหนึ่งพวกใดทำให้เจ้าไม่ยุติธรรม จงยุติธรรมเถิดมันเป็นสิ่งที่ใกล้กับความยำเกรงยิ่งกว่า และพึงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด” (อัลมาอิดะฮฺ/8) และห้ามจากการเป็นศัตรู ถึงแม้ว่าจะโกรธแค้นมากมายสักปานใด “และจงอย่าให้การเกลียดชังพวกหนึ่งพวกใด(หมายถึงมุชริกมักกะฮฺ)ที่ขัดขวางพวกเจ้ามิให้เข้ามัสยิดหะรอม ทำให้พวกเจ้ากระทำการละเมิดและพวกเจ้าจงช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องคุณธรรม และความยำเกรง และจงอย่าสนับสนุนกันในสิ่งที่เป็นบาป และเป็นศัตรูกัน และพึงเกรงกลัวอัลลอฮฺเถิด” (อัลมาอิดะฮฺ/2)

อิสลามได้ต่อต้านการกดขี่จากระบอบคอมมิวนิสต์ เหมือนที่ต่อต้านการเอารัดเอาเปรียบจากระบบทุนนิยม ปฏิเสธต่อการแบ่งชนชั้นวรรณะเสมือนที่ปฏิเสธต่อการอธรรมซึ่งกันและกันของแต่ละฝ่าย และเรียกร้องสู่การนำหลักธรรมคำสอนมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัดซึ่งมันจะก่อให้เกิดสายใยแห่งความรัก ไม่ได้เรียกร้องสู่การแบ่งฝ่ายแบ่งพวก ซึ่งมันจะก่อให้เกิดความอิจฉาริษยาต่อกัน


อิสลามต่อต้านการอธรรมทั้งหลายของรัฐบาล หรือผู้ปกครองบ้านเมือง และปฏิเสธต่อคำพิพากษาที่อธรรมทั้งหลาย เป็นศาสนาที่จะบอกแก่ผู้พิพากษาว่า “อย่าได้ก่อการอธรรม” และจะบอกกับประชาชนว่า “อย่าได้หวาดกลัว” และสอนให้ศรัทธาชนพึมพำคำขอพรของพวกเขาว่า “โอ้อัลลอฮฺ เราขอขอบคุณต่อพระองค์ และเราไม่ได้ปฏิเสธต่อพระองค์ และเราขอปลดเปลื้องหลุดพ้นจากผู้ปฏิเสธต่อพระองค์” และเทิดเกียรติความยุติธรรมให้เป็นการญิฮาดระดับสูงสุด คือ การพูดความจริงต่อหน้าผู้ปกครองที่ข่มเหงรังแก.


อิสลามจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอ และจะเอาสิทธิของผู้ที่แข็งแรงมอบคืนให้แก่พวกเขา และจะต่อสู้กับผู้ที่ร่ำรวยหากเขาได้ปฏิเสธหน้าที่ที่เขาพึงมีต่ออัลลอฮฺ คือการที่เขาต้องบริจาคแก่กลุ่มชนผู้ยากขน ปลุกเร้าต่อบุตรหลานให้ลุกขึ้นต่อสู้ “...ในหนทางของอัลลอฮฺ ทั้ง ๆ ที่บรรดาผู้อ่อนแอไม่ว่าผู้ชายและผู้หญิง และเด็ก ๆ” (อัลนิซาอฺ/75)


นี่เป็นวิถีแห่งอิสลามที่เป็นความเข้าใจของชนยุคที่โลกกำลังตั้งหน้าตั้งตารอคอย เป็นระบอบที่พวกเขาศรัทธา เป็นศาสนาที่พวกเขาเรียกร้องเผยแผ่ ด้วยกับอิสลามที่ทำให้พวกเขามองเห็นเป้าหมาย มองเห็นหนทาง รู้จักตนเอง รู้จักพระเจ้า รู้จักศาสนา รู้จักดุนยา รู้จักมรดกของตน รู้จักยุคสมัย รู้จักมิตร รู้จักศัตรู รู้ว่าใครคือผู้จุดแสงสว่างนำทาง และใครที่จักนำให้หลงทาง และผู้ใดคือผู้ที่เบี่ยงเบนสายเชือกออกจากทางนำอันเที่ยงตรง

Maintained by: e-Daiyah Group (1429 H - 2008).