Loading

 

กลุ่มชนแห่งพระผู้เป็นเจ้า ผู้มีหัวใจตั้งมั่นอยู่บนความบริสุทธิ์ (อิคลาศ)

กลุ่มชนที่พลีตนในวิถีแห่งพระผู้อภิบาลแห่งสากลจักรวาล ซึ่งพวกเขามีชีวิตอยู่บนโลกดุนยานี้แต่เฉพาะเรือนร่าง ส่วนจิตใจวิญญาณของพวกเขาเป็นของอาคีเราะฮฺ เขาดำรงตนอยู่บนผืนแผ่นดิน แต่หัวใจกลับโหยหาบัลลังก์แห่งอัลลอฮฺ และหวังที่จะได้เป็นกลุ่มชนจำนวนหนึ่งที่ได้อยู่ภายใต้ร่มเงาของพระองค์ในวันที่ไม่มีร่มเงาใด ๆ นอกจากร่มเงาของพระองค์

พวกเขายึดมั่นอยู่ในสายเชือกของอัลลอฮฺอย่างมั่นคง แต่ละก้าวย่างของพวกเขาจะมีรัศมีแห่งอัลลอฮฺคอยสาดส่องนำทาง หัวใจของพวกเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักอันพิสุทธิ์ที่มีต่ออัลลอฮฺ ลิ้นของพวกเขาอ่อนโยนเปียกชุ่มไปด้วยการรำลึกถึงพระองค์ อวัยวะในเรือนร่างของพวกเขาเคลื่อนไหวหมกมุ่นอยู่กับการสวามิภักดิ์ต่อพระองค์ พวกเขามีชีวิตอยู่ด้วยกับอัลลอฮฺ และดำเนินไปเพื่ออัลลอฮฺ ด้วยกับอัลลอฮฺเท่านั้นที่พวกเขายึดมั่น และจากพระองค์เท่านั้นที่พวกเขาขอความช่วยเหลือ และยังพระองค์เท่านั้นที่พวกเขามุ่งแสวงความใกล้ชิดความพึงพอพระทัย ทุกอริยบทของการเคลื่อนไหว ทุกความเป็นไปของการสงบนิ่ง ดำเนินไปตามแสงสว่างของคัมภีร์อัลกุรอาน พวกเขาจะรักกันเพื่ออัลลอฮฺ โกรธกันเพื่ออัลลอฮฺ จะถักทอสายใยความสัมพันธ์สร้างปฏิสัมพันธ์กันเพื่อพระองค์ หยิบยื่นมอบให้แก่กันเพื่อองค์ ต่อสู้เพื่อพระองค์ ฉะนั้น อัลลอฮฺคือปฐมบทของพวกเขา และเป็นเป้าหมายสุดท้ายของพวกเขาเช่นเดียวกัน “พระองค์ทรงเป็นองค์แรก และองค์สุดท้าย” (อัลหะดีด / 3 ) “และแท้จริงจุดหมายปลายทาง(ของเขา)มุ่งไปสู่พระเจ้าของเจ้า” (อัลนัจมฺ / 42)

คุณลักษณะที่โดดเด่นกว่าผู้คนทั่วไปของพวกเขาคือ “เป็นกลุ่มชนที่มีความบริสุทธิ์ใจเพื่ออัลลอฮฺ” พวกเขามีความบริสุทธิ์ใจต่อศาสนาของพวกเขาเพื่ออัลลอฮฺ เสมือนที่พระองค์ทรงเลือกศาสนาอันพิสุทธิ์ให้แก่พวกเขา พวกเขามั่นใจว่าดุนยาถูกสรรสร้างขึ้นมาเพื่อพวกเขา และพวกเขาถูกอุบัติขึ้นมาก็เพื่อพระองค์แต่เพียงผู้เดียว ดังนั้นพวกเขาเลยไม่สงสัยในสิ่งหนึ่งสิ่งใดในคำดำรัสของพระผู้อภิบาล เมื่อมันได้มาประจักษ์เป็นพยานอยู่เบื้องหน้าและสายตาของพวกเขา “จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) แท้จริงการละหมาดของฉัน และการอิบาดะฮฺของฉัน และการมีชีวิตอยู่ของฉันและการตายของฉันนั้นเพื่ออัลลอฮฺพระผู้เป็นเจ้าแห่งสากลโลกเพียงเท่านั้น ไม่มีภาคีใด ๆ แก่พระองค์” (อัลอันอาม / 161-162)

เมื่อมนุษย์มีเป้าหมายในการดำรงชีวิตที่ขัดแย้งแตกต่างกัน บ้างก็จมปลักอยู่กับการสะสมทรัพย์สมบัติ บ้างก็มุ่งอยู่กับการแสวงหาชื่อเสียงเกียรติยศ คลั่งใคล้อยู่กับการควานหาอำนาจบารมี บ้างก็หมกมุ่นหลงใหลอยู่กับนารี ตัณหาราคะ บ้างก็ตกเป็นทาสของสุรายาเมา แต่สำหรับพวกเขานั้น จะเป็นกลุ่มชนที่ไม่ปรารถนาเรื่องอำนาจชื่อเสียง หรือบารมีแห่งโลกนี้และไม่ปล่อยให้ตัวตนสร้างความเสื่อมเสียให้เกิดขึ้นบนหน้าแผ่นดิน ไม่ต้องการความร่ำรวยฟุ้งเฟ้อ เขาจะไม่พันธนาการตัวเองไว้กับความต้องการของอารมณ์ใฝ่ต่ำ เขามักจะอ้อนวอนขอต่อพระผู้อภิบาลว่า “อย่าได้ให้ดุนยามาครอบงำวิชาความรู้ของเรา เมื่อความสวยงามของดุนยามาประสบกับเรา เราจะจับมันวางไว้บนฝ่ามือและขยี้เสีย เพื่อไม่ให้มันรุกล้ำเข้าไปเกาะกินในหัวใจ” เขาจะเอามันไว้ให้เป็นแค่เพียงทางผ่าน มิได้กอดรัดมันไว้เป็นเป้าหมายในการดำเนินชีวิต แต่ทว่าสิ่งที่เป็นสารัตถะสำคัญของพวกเขาคืออาคีเราะฮฺ เพราะทุกสรรพสิ่งที่งอกขึ้นดำรงอยู่บนผืนแผ่นดินจะละลายกลายเป็นดินในที่สุด

ดวงใจทุกดวงของพวกเขาถักร้อยไว้ด้วยกับความปลื้มปีติแห่งการเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ ไม่ได้ร้องหาสิ่งอื่นใดมาเป็นพระเจ้านอกจากพระองค์ไม่ต้องการรัฐธรรมนูญอื่นใดมาปกครองนอกจากอัลกุรอาน ไม่ยอมรับหรือลอกเลียนบุคลิกภาพของผู้ใดนอกจากแบบอย่างของท่านรอซูลลุลลอฮฺเท่านั้น วิถีชีวิตของพวกเขาหลุดพ้นจากวงจรของพระเจ้าจอมปลอม ไม่ยอมจำนนอิบาดะฮฺต่อสิ่งใดอื่นจากอัลลอฮฺ สติปัญญาและหัวใจของพวกเขาไม่ยอมสิโรราบต่อสิ่งใดนอกจากดำรัสของอัลลอฮฺพระผู้เป็นเจ้าแห่งสากลจักรวาล พวกเขาเข้าใจความหมายของคำขอพร วอนขอความช่วยเหลือต่ออัลลอฮฺด้วยความหวัง และความหวั่นเกรงอย่างลึกซึ้ง “เฉพาะพระองค์เท่านั้นที่เราเราเคารพภักดี และเฉพาะพระองค์เท่านั้นที่เราขอความช่วยเหลือ” (อัลฟาติหะฮฺ / 5)พวกเขาสามารถแบ่งแยกหนทางอันเที่ยงธรรมกับหนทางที่หลงผิดออกจากกันอย่างชัดเจน

Maintained by: e-Daiyah Group (1429 H - 2008).