Loading

 

บทส่งท้าย - ชนในยุคแห่งชัยชนะ

โอ้ชนในยุคแห่งชัยชนะ


พวกท่านคือกลุ่มชนที่โลกกำลังรอคอยคือกลุ่มชนที่เรากำลังตั้งตารอคอยและเพรียกหา และประชาชาติทั้งหลายก็กำลังรอคอยอยู่พร้อมกับเรา จากจากาตาร์ถึงริบาฏในโมร็อคโค ซึ่งเราได้ทุ่มเททุกความพยายามเพื่อจะสถาปนาชนกลุ่มนี้มา และเราพยายามที่จะเพาะปลูกเมล็ดพันธุ์ในหัวใจของเราเพื่อพวกเขา พวกเขาได้ทุ่มเททุกขุมกำลังทั้งภายนอกและภายในเพื่อต่อสู้กับศัตรูอิสลามที่ต้องการกำจัดพวกเขาให้แท้งก่อนกำหนด สกัดกั้นฝังหรือแม้แต่ทั้งเป็นก่อนอุบัติขึ้น หากเหนื่อยล้าจากเรื่องราวเหล่านั้น ศัตรูอิสลามก็ได้พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะทำให้ชนกลุ่มนี้หลงประเด็นจากเป้าหมายที่สูงส่งเพื่อเบือนสู่เป้าหมายอันหลอกลวง ให้จมปลักอยู่กับเรื่องเล็ก ๆ จนกระทั่งลืมเรื่องใหญ่ ให้พวกเขาก้าวเดินอย่างช้า ๆ โดยเอากำแพงของความน่าหวาดกลัวมาขวางกั้นทางเดิน ยุแหย่ให้ทะเลาะเบาะแว้งกันเองแทนที่จะได้สู้รบปรบมือกับพวกมัน เวลาทั้งหลายหมดไปกับการโต้เถียงขัดแย้งแลปัจจัยรายล้อมอื่น ๆ ที่เป็นสาเหตุของความเดือดร้อนโกลาหล (ฟิตนะฮฺ) และกลอุบายล่อลองต่าง ๆ ที่งัดแงะอกมาเพื่อให้พวกเขาหลงลืมต่อแผนการต่าง ๆ ที่ได้วางไว้

ชนกลุ่มนี้กับการสร้างพวกเขาสิ่งจำเป็นประการแรกคือ การเคลื่อนไหวเพื่ออิสลามในยุคปัจจุบัน เหมือนที่มีความจำเป็นต่อนักเผยแพร่ บรรดานักคิด นักวิชาการ และบรรดาผู้อบรมสั่งสอน(มูร็อบบีย์) จะต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการเตรียมการเป็นอย่างดี และการตัรบียะฮฺที่ครอบคลุมทางด้านจิตวิญญาณและเรือนร่าง สติปัญญา จรรยามารยาท สังคม และการเมือง เริ่มกระทำจากการปกป้องตนเองเป็นประการแรกเพื่อไม่ให้ก่อเกิดการกัดกินของสนิมภายใน ต่อจากนั้นปกป้องเล่ห์อุบายของศัตรูและความโฉดเขลาของเพื่อนพ้อง

พวกเขาเป็นกลุ่มที่พระองค์อัลลอฮฺทรงปกปักษ์รักษาไว้เพื่อที่จะแบกจิตวิญญาณ อุดมการณ์ของท่านอบูบักรในการยืนหยัดเพื่อเผชิญหน้ากับมุรตัด ดั่งที่พระองค์ได้บอกถึงคุณลักษณะของพวกเขาไว้ “บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย ผู้ใดในหมู่พวกเจ้ากลับออกจากศาสนาของพวกเขาไป อัลลอฮฺก็จะทรงนำมาซึ่งพวกหนึ่งที่พระองค์ทรงรักพวกเขา และพวกเขาก็รักพระองค์ เป็นผู้นอบน้อมถ่อมตนต่อมุมิน ไว้เกียรติแก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา พวกเขาจะเสียสละและต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺ และไม่กลัวการตำหนิของบรรดาผู้ตำหนิ นั่นคือความโปรดปรานของอัลลอฮฺ ซึ่งพระองค์ทรงประทานมันแก่บรรดาผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงกว้างขวาง ผู้ทรงรอบรู้”( อัลมาอิดะฮฺ / 54)

ชนกลุ่มที่โลกกำลังรอคอย คือ “ชนในยุคแห่งชัยชนะ” เป็นผู้ที่จะมาปลดปล่อยปาเลสไตน์ อัฟกานิสถาน เอริธีเรีย ฟิลิปปินส์ บุคอรอและสมัรค็อนดฺ ด้วยน้ำมือของพวกเขา และร่วมขจัดความสกปรกโสมม จากสิ่งที่ถูกกราบไหว้อื่นจากอัลลอฮฺ ขจัดความชั่วสามานย์ให้หมดไปจากแผ่นดิน กลุ่มชนผู้เชิดชูร่มธงแห่งอัลลอฮฺให้สะบัด ปลิวไสวอยู่บนหน้าผืนพิภพของพระองค์ เอาศาสนาของพระผู้สร้างนำทางดุนยาที่ถูกสร้าง จุดประกายรัศมีจากฟากฟ้านำมาสอดส่องความมืดมนบนหน้าแผ่นดิน

กลุ่มชนผู้ที่สมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับการช่วยเหลือจากอัลลอฮฺ ดำเนินชีวิตภายใต้อ้อมกอดของบรรดามลาอีกะฮฺ ทุกสรรพสิ่งที่มีอยู่บนผืนโลกจะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้แก่พวกเขา เพื่อให้พวกเขาได้รับชัยชนะแม้กระทั่งก้อนหินและต้นไม้จะพูดกับเขาว่า “โอ้อับดุลลอฮฺ โอ้มุสลิม นี่ศัตรูของท่านหลบอยู่ข้างหลังฉัน มาเถิดมาสังหารพวกเขาเสีย”

และคำเรียกร้องเชิญชวนในวันนี้ฝากถึงคนหนุ่มสาวแห่งอิสลาม ขอให้พวกเขาก้าวผ่านยุคของความอ่อนแอ ความไร้ซึ่งสารัตถะของชีวิต ก้าวกระโดดสู่ยุคของความเข้มแข็ง ยุคแห่งความสร้างสรรค์ พวกเขาจะต้องเข้าร่วมในการขับเคลื่อนร่วมกับกลุ่มชนแห่งพระผู้เป็นเจ้าที่โลกทั้งใบกำลังเฝ้ารออยู่ การปรากฎขึ้นของพวกเขาจะนำมาซึ่งความโปรดปรานอันยิ่งใหญ่ของอัลลอฮฺในทุกประชาชาติแห่งอิสลาม จะประจักการทุ่มเทพยายามของคนดี คนที่ซื่อสัตย์จะไม่ขาดหล่นสูญหายแต่ประการใด “และใช่ว่าอัลลอฮฺนั้นจะทำให้การศรัทธาของพวกเจ้าสูญหายไปก็หาไม่ แท้จริงอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงกรุณาปราณีผู้ทรงเมตตาแก่มวลมนุษย์เสมอ” (อัลบากอเราะฮฺ / 143)

ส่วนผู้ที่พึงพอใจที่จะเลือกนิ่งเฉยพร้อมกับบรรดาผู้ที่มีความเฉยเมย พร้อมกับบรรดาผู้ที่หลงลืม หรือใช้ชีวิตร่วมกับบรรดาผู้ที่ละเมิดฝ่าฝืน ดังนั้นสมควเขาจะตกเป็นผู้ขาดทุน โดยมอบพละกำลังทั้งหมดให้กับชัยฏอนมารร้าย และเขาผู้นั้นก็สมควรยิ่งที่จะได้รับความกริ้วโกรธจากอัลลอฮฺ และสร้างความปีติยินดีให้กับศัตรูผู้โอหัง และจะทำให้การค้าของพวกเขาขาดทุนอย่างมหาศาล ทั้งดุนยาและอาคิเราะฮฺ

“จงร่ำร้องให้แก่ตัวเองเถิด สำหรับผู้ที่ใช้ชีวิตของเขาสูญหายไปโดยเปล่าประโยชน์ เขาจะไม่ได้รับส่วนแบ่งหรือการแบ่งปันแต่ประการใด”

Maintained by: e-Daiyah Group (1429 H - 2008).