Loading

 

ของฝากแด่มุสลิมะฮฺ

ในคำบรรยายต่อไปนี้  ฉันขอพูดเป็นการเฉพาะสำหรับกลุ่มมุสลีมะฮฺ(สตรีมุสลิม)  ซึ่งพร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจที่อิสลามกำหนดไว้ ดังนี้

          ภารกิจประการแรก  พวกเธอจะต้องเพียรพยายามอย่างสุดความสามารถ  และให้ความสนใจอย่างจริงจัง  ในเรื่องการศึกษาและเรียนรู้หลักการอิสลาม  เพียงแค่การอ่านและเข้าใจความหมายของอัล-กุรอานเท่านั้นก็ไม่เป็นการเพียงพอ  หากแต่พวกเธอจะต้องศึกษาหะดีษ/ซุนนะห์และฟิกฮฺ(ศาสนบัญญัติ)  เท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวย  และไม่เพียงพอที่จะเรียนรู้และเข้าใจรูก่นอิสลาม(หลักการปฏิบัติพื้นฐาน)หรือรูก่นอีหม่าน(หลักการศรัทธา)เท่านั้น หากแต่พวกเธอจะต้องศึกษาเรียนรู้มากกว่านั้น อันได้แก่ หลักการเกี่ยวกับบุคคล ครอบครัวและสังคม  การที่มุสลีมะฮฺไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการอิสลาม  เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสิ่งต่างๆ  ซึ่งขัดแย้งกับหลักการอิสลามในครอบครัวของมุสลิม ทำให้ธรรมเนียม ประเพณีญาฮีลียะฮฺ หรือค่านิยมอื่นๆเกิดขึ้นในครอบครัวของมุสลิม

           ดังนั้น ภารกิจข้อนี้จึงเป็นภารกิจข้อแรกสำหรับมุสลีมะฮฺ ซึ่งเป็นการปูพื้นฐานและเตรียมความพร้อมก่อนที่จะปฏิบัติในภารกิจข้ออื่นๆ  และนอกจากส่วนบุคคลแล้ว สังคมก็ต้องให้ความสำคัญกับภารกิจข้อนี้เช่นเดียวกัน  ทั้งนี้โดยการเปิดสถาบันการศึกษาเป็นการเฉพาะสำหรับมุสลีมะฮฺ 

           อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัตินั้น การนำภารกิจนี้ไปดำเนินการ  ยังมีข้อจำกัดอีกมาก  เราทั้งหลายจึงต้องเพียรพยายามมากยิ่งขึ้นจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย

           ประการที่สอง  พวกเธอจะต้องให้ความสนใจต่อเรื่องการตัรบียะฮฺ(การอบรมและขัดเกลา)ตนเอง  ครอบครัวและสังคม  เพื่อให้สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิตตามครรลองของศาสนาอิสลาม  โดยการศึกษาอัล-กุรอาน  หะดีษ/ซุนนะฮฺ  ฟิกฮฺ(ศาสนบัญญัติ) และอัคลาก(จริยธรรม)  มุสลิมะฮฺทุกคนจะต้องมีจริยธรรมที่งดงาม สูงส่งและมีคุณค่า  ทุกครั้งที่เธอทั้งหลายรู้ว่า  การกระทำบางอย่างเป็นจริยธรรมหรือมารยาทที่ดี เธอก็จะนำไปประพฤติปฏิบัติและไม่พยายามละทิ้งการกระทำนั้นเป็นอันขาด  แต่เมื่อเธอทั้งหลายรู้ว่า การกระทำเช่นนั้นเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี เธอก็จะละทิ้งและหลีกห่างจากสิ่งนั้นทันที จะไม่หลงยึดติดกับสิ่งชั่วร้าย  ถึงแม้ว่าในบางครั้งเธออาจจะถูกคนอื่นยั่วยวนให้กระทำมากเพียงใดก็ตาม

           นอกจากนั้น มุสลีมะฮฺจะต้องเคารพและเชื่อฟังสามีในเรื่องที่มิใช่การละเมิดหลักการของอัลลอฮฺและรสูลของพระองค์  แน่นอนในการปฏิบัติภารกิจนี้ พวกเธอจะต้องได้รับการทดสอบอย่างหนัก  ดังนั้น พวกเธอจะต้องเผชิญกับบททดสอบเหล่านั้นด้วยความอดทน(ซอบัรฺ)  มอบหมาย(ตะวักกัล)ต่ออัลลอฮฺและหวังในความโปรดปรานจากพระองค์ 

พวกเธอจงปฏิบัติตามคำสั่งสอนของอิสลามตามกำลังความสามารถและเวลาที่มีอยู่ด้วยความวิริยะอุตสาหะ  อันจะส่งผลดีเป็นอย่างยิ่งต่อการสร้างครอบครัวและสังคมของพวกเธอ  แต่ในทางตรงกันข้าม   หากว่ามุสลีมะฮฺสยบหรือศิโรราบต่ออารมณ์ใฝ่ต่ำ(นัฟซู)  พวกเธอก็จะกลายเป็นผู้ที่ละเมิดบทบัญญัติของอัลลอฮฺได้อย่างง่ายดาย  อันจะส่งผลให้อัลลอฮฺทรงนำเอาความบารอกะฮฺออกไปจากชีวิตของเธอ  เพราะเธอได้แสดงตัวอย่างที่ไม่ดีต่อครอบครัวและสังคม  ซึ่งทั้งหมดนั้นล้วนมาจากความอ่อนแอของอีหม่านและศีลธรรมหรือจริยธรรมทั้งสิ้น 

           ประการที่สาม  ภารกิจของมุสลีมะฮฺต่องานดะอฺวะฮฺ(งานเผยแผ่)อิสลาม  มุสลีมะฮฺจะต้องให้ความสนใจต่องานการสร้างครอบครัว ต่อญาติพี่น้อง และสมาชิกครอบครัวอื่นๆ มากกว่าการทำงานสังคมในด้านอื่น  สำหรับมุสลีมะฮฺที่มีบุตรธิดาแล้ว  พวกเธอจะต้องตระหนักเสมอว่า  พวกเธอกำลังได้รับการทดสอบจากอัลลอฮฺ  เธอจะสอบผ่านบททดสอบนี้หรือไม่? เป็นเรื่องที่พวกเธอต้องให้ความสนใจและคิดคำนึงให้มาก

ดังนั้น หน้าที่หลักในการอบรมเลี้ยงดูลูกจึงเป็นบทบาทของมุสลีมะฮฺ  พวกเธอจะต้องอบรมลูกทั้งในเรื่อง อีหม่าน ศาสนบัญญัติ และจริยธรรมอิสลาม

           สำหรับมุสลีมะฮฺที่แต่งงานและมีครอบครัวแล้ว พวกเธอจะต้องคอยกระตุ้น ส่งเสริมและสนับสนุนสามีในเรื่องที่ดีงาม  คอยให้ความช่วยเหลือและให้กำลังใจสามีตลอดเวลา เมื่อสามีกำลังพยายามทำความดีและปฏิบัติตามหลักคำสอนของอิสลาม

           นอกจากนั้น มุสลีมะฮฺจะต้องรักและผูกพันกับสัจธรรมในศาสนามากกว่าสายเลือดหรือเครือญาติ  ดังนั้น พวกเธอจึงต้องพยายามเผยแผ่(ดะอฺวะฮฺ)อิสลามแก่พ่อแม่ เครือญาติที่ยังไม่เข้าใจอิสลาม ด้วยวิทยปัญญาและวิธีการที่ดี  อย่างน้อยที่สุดพวกเธอจะต้องนำหนังสือที่เธออ่านจบไปให้พ่อแม่และเครือญาติได้อ่านด้วย

           ประการสุดท้าย  มุสลีมะฮฺกับการอบรมให้ความรู้แก่พี่น้องมุสลีมะฮฺอื่นๆ ในช่วงที่มีเวลาว่างจากภารกิจในครอบครัว  พวกเธอจะต้องเข้ามามีบทบาทในการอบรมศาสนาแก่เยาวชนคนหนุ่มสาว  สอนให้อ่านหนังสือออก เขียนได้ ตลอดจนแจกจ่ายหนังสือศาสนาแก่พี่น้องมุสลีมะฮฺคนอื่นๆ  พวกเธอจะต้องจัดกิจกรรมกลุ่มศึกษาศาสนา(Study Group) โดยให้มีการเสวนา อภิปรายและศึกษาเกี่ยวกับหลักการอิสลาม  หรืออ่านหนังสือเกี่ยวกับอิสลามให้ฟังในกรณีที่สมาชิกในกลุ่มไม่สามารถอ่านหนังสือได้

            สรุปแล้ว พวกเธอจะต้องทำงานเผยแผ่(ดะอฺวะฮฺ)อิสลาม   ด้วยสื่อหรือกิจกรรมใดก็ได้ ตามโอกาสและความสามารถของพวกเธอ  ทั้งนี้ เมื่อมีการเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับอิสลามให้แก่ผู้ไม่รู้เหล่านั้น   ความไม่รู้ในเรื่องอิสลามก็จะค่อยๆหมดไป   

            นอกจากนั้น   ยังมีภารกิจเฉพาะสำหรับมุสลีมะฮฺที่มีความรู้ ความสามารถในบางสาขา ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของสังคมมุสลิมในปัจจุบัน    ทำให้พวกเธอจำเป็นต้องทำงานศึกษา วิจัยและวิเคราะห์ เกี่ยวกับความทรุดโทรมและตกต่ำในเรื่องศีลธรรม/จริยธรรม  โดยเฉพาะในเด็ก เยาวชนและสตรี  ซึ่งกำลังตกเป็นเหยื่อของวัฒนธรรมตะวันตก  ฉันคิดว่า  ในประเทศของเรามีคนที่ตกเป็นเหยื่อของวัฒนธรรมนี้เป็นจำนวนมาก  โดยเฉพาะสตรีที่หลงผิดและหลงความเจริญจากตะวันตก ซึ่งนอกจากเธอจะหลงผิดแล้ว   เธอยังชักนำให้คนอื่นหลงผิดตามไปด้วย  เราจะเห็นได้ว่า ในปัจจุบันพวกตะวันตกมักจะใช้สตรีในทางทำลายมากกว่าสร้างสรรค์   และที่น่าแปลกใจก็คือ  พวกเธอสามารถใช้สื่อต่างๆได้อย่างเสรี    โดยไม่มีใครคอยควบคุม!!!!!


โดย …อบุลอะลา อัล-เมาดูดีย์

มุคลิส บินยูซุฟ แปลและเรียบเรียง

 

 

 

Maintained by: e-Daiyah Group (1429 H - 2008).