Loading

 

ต้นทุนและปัจจัยแห่งความเข้มแข็งในอิสลาม

 

การหมุนเวียนกงล้อของประชาคมมุสลิม ก็คือ การขึ้นและลงจากอำนาจการปกครองและสภาวะผู้นำของโลก และด้วยสภาวะแห่งการเป็นผู้นำของอิสลาม คำสอนของอิสลามจึงได้จัดเตรียมปัจจัยหรือต้นทุนต่างๆอย่างเพียบพร้อม สมบูรณ์และเหมาะสมกับสถานภาพอันสูงส่งดังกล่าว
ปัจจัยต่างๆที่อิสลามได้จัดเตรียมไว้ให้นั้น เป็นปัจจัยที่สามารถสร้างประชาคมมุสลิมให้มีความเข้มแข็งอย่างแท้จริง และจะส่งผลให้ประชาคมมุสลิมสามารถบรรลุถึงความใฝ่ฝันและจุดมุ่งหมายที่ต้องการ อันได้แก่ ความบริสุทธิ์ งดงาม มีเกียรติและศักดิ์ศรี มีความเข้มแข็งยิ่งใหญ่ และสูงส่ง มีอำนาจ และมีภาวะผู้นำ ตลอดจนมีความสงบสันติสุขบนหน้าแผ่นดิน

ปัจจัยแห่งความเข้มแข็งในอิสลามทั้งหมดนั้นมิอาจแยกออกจากกันได้ ทุกอย่างจะต้องบูรณาการเป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้เกิดดุลยภาพและกลมกลืนกัน ซึ่งได้แก่
(1) ความศรัทธามั่นต่ออัลลอฮฺ ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้เกิดความอิ่มเอมใจและสมบูรณ์ทางความคิด
(2) การยึดมั่นอย่างมั่นคงในสัจธรรม ด้วยหลักยึดข้อนี้จะทำให้ความเท็จและความชั่วมลายหายไปหมดสิ้น
(3)การรู้และตระหนักถึงความอ่อนแอของจิตวิญญาณ แล้วพยายามชำระขัดเกลามัน จนกระทั่งจิตวิญญาณของเขา สามารถเดินไปบนหนทางอันเที่ยงตรงได้ ทั้งนี้เพื่อที่จะไปสู่ความบริสุทธิ์และงดงามของจิตวิญญาณนั่นเอง
(4)ความรู้ ซึ่งเป็นรากฐานของชีวิตมนุษย์ เป็นตัวเปิดเผยและคลี่ม่านที่บดบังสติปัญญา เพื่อให้เห็นแก่นแท้ของสรรพสิ่งที่ดำรงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุและสิ่งที่พ้นญาณวิสัย ซึ่งไม่สามารถจะสัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัส
(5)ทรัพย์สิน การพัฒนาผืนแผ่นดิน พัฒนาพลังจากธรรมชาติ การใช้ประโยชน์จากสิ่งต่างๆที่มีอยู่ในจักรวาล ซึ่งอัลลอฮฺทรงโปรดประทานมาให้อย่างล้นเหลือ เพื่อให้เกิดความบารอกะฮฺ ประโยชน์ และความดีงามทั้งหลาย ตลอดจนการกระจายทรัพยากรแก่มวลมนุษย์ร่วมโลกอย่างพอเพียงและเป็นธรรม
(6)สร้างสังคม ด้วยแนวนโยบาย การให้มีสิทธิเสรีภาพ ความยุติธรรม ความเท่าเทียมและเสมอภาค โดยการปฏิบัติตามหลักชารีอะฮฺที่เรียบง่าย ทำงานด้วยความกระตือรือร้น การติดต่อสัมพันธ์ที่ดี กฎหมายที่เที่ยงธรรม ซึ่งทั้งหมดนี้มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ ความสงบและสันติสุขของประชาคมโลก
(7) การสถาปนาสันติภาพสากล ซึ่งอยู่บนหลักการของการเคารพในศักดิ์ศรี การให้เกียรติแก่เพื่อนมนุษย์และการคุ้มครองสิทธิต่างๆของมนุษย์
(8)การรักษาคำมั่นสัญญาต่างๆอย่างเคร่งครัด
(9)การเสียสละอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการยอมสละชีพเพื่อพิทักษ์รักษาสัจธรรม สิ่งที่ดีงามทั้งหลายและเพื่อให้ได้มาซึ่งชีวิตที่มีอิสรภาพและมีเกียรติศักดิ์ศรี
เหล่านี้ คือต้นทุนหรือปัจจัยแห่งความเข้มแข็งที่ปรากฏในหลักคำสอนของอิสลาม ซึ่งไม่อาจนำมาเทียบกับปัจจัยที่มนุษย์รวบรวมและเรียบเรียงไว้ได้เลย
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ต้นทุนหรือปัจจัยแห่งความเข้มแข็งและยั่งยืนในอิสลาม ประกอบด้วย พลังแห่งอากีดะห์ พลังแห่งศีลธรรมหรือจริยธรรม พลังแห่งความรู้ พลังทางเศรษฐกิจ พลังทางสังคม พลังแห่งระเบียบโลกเพื่อสร้างสันติภาพ และสุดท้ายก็คือ พลังแห่งแสนยานุภาพทางการทหาร
อำนาจและการเป็นผู้นำของประชาชาติใดๆ จะเข้มแข็งหรืออ่อนแอ ขึ้นอยู่กับความครบถ้วนสมบูรณ์ของปัจจัยข้างต้นโดยรวม
ความเข้มแข็งของปัจจัยหรือต้นทุนเหล่านี้เอง เป็นพลังขับเคลื่อนหลักที่นำพาประชาคมมุสลิมในยุคต้นให้มีความสงบสุข พวกเขาได้ปกปักษ์รักษาและพัฒนาพลังเหล่านั้นตลอดเวลา ถ่ายทอดจากสมัยหนึ่งไปสู่อีกสมัยหนึ่ง จนกระทั่งได้กลายเป็นมหาอำนาจในสมัยนั้น โดยที่พวกเขาได้แบกรับภาระงานอันหนักอึ้งไว้บนบ่า นั่นคือ ภารกิจในการกระตุ้นและตักเตือนมวลมนุษย์ให้ยึดมั่นในเอกภาพของพระเจ้าและห่างไกลจากสิ่งชิริก(การตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ)ทั้งหลาย พวกเขาสามารถปลดปล่อยมวลมนุษย์ให้มีอิสรภาพจากอำนาจอธรรมที่กดขี่ข่มเหงผู้ที่อ่อนแอกว่า พร้อมกันนั้นก็ได้นำความยุติธรรมแห่งอิสลามเข้ามาแทนที่ความอธรรม จากสภาพชีวิตที่แร้นแค้นสู่ชีวิตที่สงบสุขและพอเพียงในอิสลาม
ด้วยความเข้มแข็งของปัจจัยเหล่านั้น ประชาคมมุสลิมจึงได้บรรลุถึงจุดสูงสุด มีอาณาเขตปกครองกว้างขวาง มีผู้นำที่เข้มแข็ง มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ และสิ่งสำคัญที่สุด ก็คือ เป็นไปตามสัญญาที่เอกองค์อัลลอฮฺทรงให้ไว้ ซึ่งพระองค์ทรงตอบสนองสัญญาอย่างครบถ้วน โดยผ่านหยาดเหงื่อแรงกายและความเสียสละของพวกเขา แน่แท้ อัลลอฮฺจะไม่ทรงละเมิดสัญญาโดยเด็ดขาด อัลลอฮฺตรัสว่า
ความหมาย
“อัลลออฮฺทรงสัญญากับบรรดาผู้ศรัทธาในหมู่พวกเจ้า และบรรดาผู้กระทำความดีทั้งหลายว่า แน่นอนพระองค์จะทรงให้พวกเขาเป็นตัวแทนสืบช่วงในแผ่นดิน เสมือนดังที่พระองค์ทรงให้บรรดาชนก่อนพวกเขา เป็นตัวแทนสืบช่วงมาก่อนแล้ว และพระองค์จะทรงทำให้ศาสนาของพวกเขาซึ่งพระองค์ทรงโปรดปรานเป็นที่มั่นคงเป็นเกียรติแก่พวกเขา และแน่นอนพระองค์จะทรงเปลี่ยนแปลงให้พวกเขาได้รับความปลอดภัย หลังจากความกลัวของพวกเขา โดยที่พวกเขาจะต้องเคารพภักดีข้าไม่ตั้งภาคีอื่นต่อข้า และผู้ใดปฏิเสธศรัทธาหลังจากนั้น ชนเหล่านั้นพวกเขาคือผู้ฝ่าฝืน” (อันนูร : 55)

นั่นคือ คุณภาพของประชาคมมุสลิมในยุคต้นของอิสลาม ในเวลาต่อมาก็เข้าสู่อีกยุคหนึ่ง มุสลิมตกอยู่ในสภาพที่แตกต่างจากยุคต้นโดยสิ้นเชิง พวกเขาได้เดินเข้าสู่เงื่อนไขที่จะนำไปสู่ความตกต่ำตามที่อัลลอฮฺได้ทรงสัญญา ด้วยการกระทำและพฤติกรรมของพวกเขาเอง ตามกฎของสุนนะตุลลอฮฺเกี่ยวกับสังคมมนุษย์ ดังที่อัลลอฮฺตรัสไว้ในอัล-กุรอาน ความว่า
ความหมาย “นั่นก็เพราะว่า อัลลอฮฺมิได้ทรงเป็นผู้เปลี่ยนแปลงความกรุณาใดๆที่พระองค์ทรงประทานแก่กลุ่มชนหนึ่งกลุ่มชนใด จนกว่าพวกเขาจะได้เปลี่ยนแปลงสิ่งที่อยู่ในตัวของพวกเขาเอง และแท้จริงอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงได้ยินทรงรอบรู้” (อัล-อัมฟาล :53)

ในมุมมองของนักวิเคราะห์วิจัยมีความเห็นว่า สาเหตุที่ทำให้ประชาคมมุสลิมมีความตกต่ำ ก็เนื่องมาจากเกิดความขัดแย้งในเรื่องหุก่มทางศาสนาและด้านการเมืองในหมู่ประชาคมมุสลิมด้วยกันเอง เกิดความคลั่งไคล้และนิยมในเรื่องเชื้อชาติและชาติพันธุ์ เกิดการขัดแย้งและแตกแยกในเรื่องอุศูลุดดีน(หลักการศาสนา)และหุก่ม(ศาสนบัญญัติ)ปลีกย่อย มีผู้ไม่หวังดีและปรารถนาจะให้เกิดความวุ่นวายและความโกลาหล(ฟิตนะฮฺ)ได้แอบแฝงเข้ามาในสังคมมุสลิม ขณะเดียวกันความพยายามอันชั่วร้ายของพวกจักรวรรดินิยมก็ได้เข้ามาผสมโรง สุดท้ายพวกเขาก็สามารถทำให้ประชาคมมุสลิมห่างไกลจากวิญญาณอันแท้จริงของอิสลาม มีความเป็นมุสลิมแต่เพียงในนาม หรือเพียงรูปแบบและผิวเผินเท่านั้น แต่กลับห่างไกลลิบจากแก่นแท้ของอิสลาม
สาเหตุเหล่านั้นได้ค่อยๆถลำและซึมลึกเข้าไปในเรือนร่างของประชาคมมุสลิมมากขึ้น และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขาอ่อนแอ กลายเป็นประชาชาติที่ล้าหลังและด้อยพัฒนาในเวลาต่อมา
หลังจากนั้น ประชาคมมุสลิมได้ถูกรุมเร้าด้วยโรคของความอ่อนแอในเรื่องของอากีดะห์ ในด้านศีลธรรมหรือจริยธรรม มีความล้าหลังในเรื่องการศึกษา ภาวะเศรษฐกิจด้อยพัฒนาและยากจน บ้านเมืองถูกแบ่งแยกให้เป็นรัฐเล็กรัฐน้อย สายสัมพันธ์ฉันพี่น้องขาดสะบั้น กฎหมายเสื่อมและอ่อนแอ ขาดผู้นำที่เข้มแข็ง จนกระทั่งไม่สามารถจะต้านทานอำนาจท้าทายจากภายนอกได้
การกดขี่และรุกรานของจักรวรรดินิยมนั้นก็รุนแรง ยะโสโอหังและโหดร้าย พวกเขาได้ทำลายศาสนา ศีลธรรมและจริยธรรม ขัดขวางการพัฒนา เพิ่มอำนาจแก่ตนเองในการห้ามมิให้บัญญัติหุก่มและกฎหมายที่เที่ยงธรรม ทำลายความรู้และภูมิปัญญาตลอดจนทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่น
จักรวรรดินิยมประสบผลสำเร็จ ในการบั่นทอนและสลายความเข้มแข็งของประชาคมมุสลิม ยกกองทัพมายึดครองดินแดนของมุสลิม และแยกสลายประเทศมุสลิมให้กลายเป็นประเทศเล็กประเทศน้อย พวกเขาถูกล่อลวงและยุยงให้นิยมในเผ่าพันธุ์หรือชาตินิยม ,ท้องถิ่นนิยม,พรรคนิยม จนกระทั่งประเทศมุสลิมถูกแบ่งแยกกลายเป็นชนกลุ่มเล็กๆที่อ่อนแอ
จักรวรรดินิยมมิได้ให้โอกาสแก่ประชาคมมุสลิมในการฟื้นฟูและกอบกู้ประเทศเลย ผู้นำมุสลิมที่โดดเด่นส่วนมาก ถูกทำลายจนหงอไปหมด ทั้งหมดนั้นถูกปฏิบัติการด้วยกุศโลบายและเล่ห์กลที่ชั่วช้าสามานย์ มีแผนการที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างแยบยล
แผนการของจักรวรรดินิยม ในหลายเรื่องบรรลุผลตามจุดมุ่งหมายที่พวกเขาได้วางไว้ แต่ก็มีอีกเรื่องหนึ่งที่พวกเขาไม่สามารถจะทำลายได้ พละกำลังและแสนยานุภาพของพวกเขาทั้งหมดไม่อาจทำลายได้ตลอดไป นั่นก็คือ จิตวิญญาณของประชาคมมุสลิม ขวัญและกำลังใจของประชาชาติ ใช่ !พวกเขาไม่สามารถจะทำลายจิตวิญญาณของประชาคมมุสลิมที่มีชีวิตชีวาตลอดเวลา
ท่ามกลางการรุกรานอย่างหนักหน่วงของจักรวรรดินิยม ได้เกิดบางสิ่งบางอย่างที่น่าทึ่งและอัศจรรย์ใจในสังคมมุสลิม นั่นก็คือประชาคมมุสลิมเริ่มลุกขึ้นและตื่นตัวจากการหลับไหล จิตสำนึกในความเป็นมุสลิมได้หวนคืนกลับมา พวกเขาเริ่มหาช่องทางและทางเลือกของตนเองเพื่อให้มีความเข้มแข็ง โดดเด่น มุ่งมั่น และพลังความเข้มแข็งของประชาคมมุสลิมก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นและพัฒนาทีละน้อย
ใช่! ตราบจนถึงปัจจุบันนี้ ประชาคมมุสลิมก็ยังไม่บรรลุถึงความใฝ่ฝัน แต่พวกเขาก็มีใจเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ที่จะไปให้ถึงจุดมุ่งหมายอันสูงส่งของอิสลาม แม้ว่าจะต้องใช้ความเสียสละและความพยายามอย่างยิ่งก็ตาม
ดังนั้น ภารกิจของเราในฐานะที่เป็นประชาคมมุสลิมไม่ว่าจะอยู่ในระดับใดก็ตาม เรา ต้องเร่งให้มีการปฏิรูปประชาคมมุสลิมอย่างสมบูรณ์แบบ ทั่วถึงและพร้อมเพรียงกันในเรื่องจิตวิญญาณ, ศีลธรรมหรือจริยธรรม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเฉพาะและเรื่องทั่วไป จะต้องมีการศึกษารากฐานต่างๆของอิสลามอย่างถ่องแท้ มีการกำหนดแผนการปฏิรูปอย่างชัดเจน เพื่อที่จะสามารถก้าวเดินไปด้วยความรอบคอบ และระมัดระวังไม่ให้หลงทางไปซ้ำรอยเก่า ซึ่งอาจทำให้เราต้องอ่อนแอและล้าหลังอีกครั้ง ตรงกันข้ามจะต้องเป็นหนทางที่สามารถทำให้ประชาคมมุสลิมมีความเข้มแข็งและมีเกียรติ
แน่นอน การได้มาซึ่งความเข้มแข็งนั้น ต้องมิใช่ด้วยการสลัดทิ้งศีลธรรมหรือจริยธรรม มิใช่ด้วยความลังเลและระแวงสงสัยต่ออุดมการณ์และแนวทางของตนเอง มิใช่ด้วยการลอกเลียนแบบตะวันตกและตะวันออก และมิใช่ด้วยการนำเข้าลัทธิต่างๆจากภายนอกสังคมมุสลิมมาใช้
ความเข้มแข็งจะได้มาก็ด้วยการดำรงมั่นในหลักการที่นิรันดร์ ด้วยอุดมการณ์ อัตลักษณ์และความโดดเด่นต่างๆของอิสลามนั่นเอง
ดังนั้น ในภาวการณ์ที่โลกาภิวัตน์ไหลบ่าเข้าสู่สังคมอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ชุมชนและท้องถิ่นต่างๆกำลังถวิลหาครรลองชีวิตที่ให้เสรีภาพโดยสมบูรณ์ ความสงบและสันติภาพที่ยั่งยืนและแท้จริง ประชาคมมุสลิมจะต้องฟื้นฟูและปฏิรูปตนเองให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน เพื่อที่จะขับเคลื่อนสังคมมุสลิมให้ก้าวหน้าและเป็นที่พึ่งของมวลมนุษยชาติ ด้วยการเข้าถึงปัจจัยหรือต้นทุนต่างๆที่ทำให้บรรพชนอิสลามในอดีตเคยบรรลุผลสำเร็จมาแล้ว

 


โดย มุคลิส บิน ยูซุฟ

 

Maintained by: e-Daiyah Group (1429 H - 2008).