Loading

 

แมงมุมแม่หม้ายดำและความอัศจรรย์แห่งอัลกุรอาน

เมื่อพูดถึงแมงมุม เราจะนึกถึงสิ่งมีชีวิตตัวเล็กที่มี 8 ขา พร้อมด้วยรูปร่างหน้าตาที่ดูน่ากลัว แมงมุมจัดเป็นสัตว์ที่มีข้อในชั้นอะแรคนิดา (Arachnida) ร่วมกับแมงป่อง ตัวหมัดและเหา และมีความสามารถพิเศษในการสร้างและชักใย เพื่อจับเหยื่อมาเป็นอาหารตามที่เราเห็นกันอยู่บ่อยๆ คุณทราบหรือไม่ว่าในโลกนี้ มีแมงมุมชนิดต่าง ๆ มากกว่า 40,000 ชนิดกระจายอยู่ทุกมุมโลก ยกเว้นทวีปแอนตาร์กติกาเท่านั้น แต่มีแมงมุมประมาณ 200 ชนิดเท่านั้นที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์


แมงมุมและเส้นใยของมันเป็นที่สนใจจากนักวิทยาศาสตร์ เนื่องจากแมงมุมสามารถผลิตใยที่มีคุณสมบัติต่างๆ กันเพื่อให้เหมาะสมกับการนำไปใช้งาน ซึ่งแบ่งเป็น 7 ชนิดได้แก่


1. สำหรับเป็นเส้นใยรับแรง (หรือ dragline) ซึ่งเป็นเส้นใยที่เหนียวและแข็งแรงที่สุด ใช้สำหรับเป็นโครงสร้างหลักของตาข่าย ดักแมลง และสำหรับไว้ห้อยโยงแมงมุมเข้ากับตาข่าย
2.สำหรับมัดห่อเหยื่อ (swathing silk)
3.สำหรับสร้างรังไข่ (egg sak)
4.สำหรับชักเป็นตาข่าย (web)
5.สำหรับใช้ในการลอยตัว(balloning)
6.สำหรับผสมพันธุ์ (mating)
7.สำหรับสร้างรัง (shelter)


ความน่าสนใจของเส้นใยแมงมุมอยู่ที่คุณสมบัติทางกลที่ทั้งเหนียวและแข็งแรง ใยบางแบบสามารถยืดออกได้ 2 ถึง 3 เท่าโดยที่ยังไม่ขาด ขณะที่เส้นใยบางแบบมีความแข็งแรงกว่าเส้นใยเหล็กที่มีน้ำหนักเท่ากันถึง 6 เท่า และเกือบแข็งแรงเท่ากับเส้นใยเคฟลาร์ที่เป็นเส้นใยที่แข็งแรงที่สุดที่มนุษย์ผลิตได้ แต่เหนียวกว่าและมีความยืดหยุ่นดีกว่าเคฟลาร์ นอกจากนี้กระบวนการผลิตเส้นใยของแมงมุมก็เป็นวิธีที่ดีกว่าการผลิตเส้นใยของมนุษย์อย่างเทียบกันไม่ได้ เพราะเป็นวิธีที่ไม่สร้างมลภาวะ เนื่องจากใช้น้ำเป็นองค์ประกอบหลัก มีคุณสมบัติที่หลากหลาย แข็งแรงและเหนียวอย่างน่าทึ่ง


ใยแมงมุมหนึ่งเส้นมีขนาดเล็กกว่าเส้นผมมนุษย์กว่า 10 เท่า แต่สามารถที่จะหยุดผึ้งที่บินด้วยความเร็ว 32 กม.ต่อชั่วโมงได้โดยที่ใยไม่ขาด ถ้าจะมองภาพให้ชัดเจนมากขึ้น ใยแมงมุมเส้นเดียวที่มีความหนาขนาดเท่ากับดินสอ มีความสามารถในการที่จะหยุดเครื่องบินโบอิ้ง 747 ให้หยุดบินได้เหมือนแมลงอย่างไม่ยากเย็นนัก

แมงมุมมีศักยภาพในการสร้างบ้านที่มั่นคงแข็งแรงที่สุดในโลก หากมันชักใยแต่ละเส้นขนาดเท่าดินสอ แต่มันกลับสร้างเส้นใยที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กมากประมาณ 20 นาโนเมตร ซึ่งไม่สามารถป้องกันจากแดด ฝน ลม ไฟหรือภยันตรายได้แม้เพียงนิดเดียว บ้านของแมงมุมจึงเป็นบ้านที่บอบบางทางกายภาพมากที่สุดในโลก

แต่ความบอบบางทางจริยธรรม และความล้มเหลวในชีวิตครอบครัวของแมงมุมมีความรันทดหดหู่ยิ่งกว่า เพราะจากการศึกษาพบว่า

- แมงมุมตัวเมียเท่านั้นที่สามารถชักใยสร้างบ้านได้ ส่วนตัวผู้แทบไม่มีบทบาทอันใดเลย นอกจากผสมพันธุ์เท่านั้น
- เมื่อแมงมุมตัวเมียพร้อมที่จะผสมพันธุ์ มันจะเริ่มชักใยทำรังและทำตัวเพื่อดึงดูดความสนใจจากตัวผู้ด้วยการทำตัวเป็นสีเข้ม หากมีสีดำก็จะดำเป็นมัน หากมีสีน้ำตาลก็จะเป็นสีน้ำตาลเข้ม ทั้งนี้เพื่อหลอกล่อให้ตัวผู้ติดเสน่ห์ของมัน
- เมื่อตัวผู้หลงกลมันแล้ว ก็จะเกิดการผสมพันธุ์ขึ้น ครั้นความสุขผ่านไป ความอำมหิตก็เข้าแทนที่ ตัวเมียจะฆ่าและกินตัวผู้เป็นอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตต่อมเพื่อสร้างใยต่อไป
- แมงมุมจึงมีฉายา “แม่หม้ายสีดำ” (Black widow spider) เพราะชอบใช้ชีวิตสันโดษโดยไม่มีตัวผู้คอยดูแล ซึ่งน่าจะเป็นต้นตำรับของคำว่า Single mom (ภาษาชาวบ้านเรียกว่าท้องไม่มีพ่อ) ในสังคมมนุษย์ยุคเซ็กส์เสรีในปัจจุบัน
- แมงมุมจะวางไข่ประมาณ 200-400 ฟอง แต่พอออกมาเป็นตัวเล็กๆ พวกเขาจะฆ่ากันเอง ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องมีแต่ความเหี้ยมโหดยิ่งกว่าศัตรูคู่อริ อุดมด้วยความบาดหมาง อาฆาตพยาบาทและเข่นฆ่าระหว่างพี่น้องด้วยกัน
- เมื่อลูก ๆ ที่ยังคงเหลืออยู่เข้าสู่วัยรุ่น และแมงมุมตัวแม่เริ่มเข้าสู่วัยชรา แทนที่ลูก ๆ จะปรนนิบัติรับใช้แม่ยามแก่เฒ่า ลูก ๆ จะพากันรวมหัวกันฆ่าแม่และกินแม่เป็นอาหาร
- เมื่อถึงเวลาการผสมพันธุ์ แมงมุมสาวก็จะล่อลวงตัวผู้เพื่อเข้าสู่วงจรชีวิตใหม่อีกครั้ง ละครอำมหิตก็จะถูกแสดงโดยบรรดานักแสดงตัวร้ายครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่มีอวสาน

ครอบครัวแมงมุมจึงเป็นครอบครัวที่แล้งน้ำใจ ปราศจากสายใยแห่งความรัก มีตัวเมียคอย บงการและมีอำนาจวางแผนชีวิตตามลำพัง ตั้งแต่ออกแบบสร้างบ้าน ลงมือชักใยสร้างบ้าน และดูแล ลูก ๆ ในขณะที่ตัวผู้เป็นเพียงผู้อาศัยที่ต่ำต้อยซึ่งมีหน้าที่ผสมพันธุ์เท่านั้น
สมาชิกครอบครัวของแมงมุมต่างจ้องชิงดีชิงเด่นและถือผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่ตั้ง มันจะฆ่ากินแมลงทุกตัวที่ติดกับดักของมันอย่างไร้ปรานี ไม่มีที่อยู่สำหรับผู้อ่อนแอ ไม่มีความช่วยเหลือสำหรับผู้ตกทุกข์ได้ยาก ผู้อ่อนวัยจะไม่ได้รับความรักทะนุถนอม ผู้อาวุโสจะไม่ถูกเคารพยกย่อง ทุกอย่างจะจบด้วยการฆ่าถึงแม้จะเป็นสามี พี่น้องหรือแม้กระทั่งแม่ของตนเอง


หากมีคนบอกท่านผู้อ่านว่า มีหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งมีอายุกว่า 1,400 ปี ได้บอกคุณลักษณะของวงจรชีวิตของแมงมุมว่า รังของแมงมุมคือรังที่บอบบางที่สุด และครอบครัวของแมงมุมคือต้นแบบครอบครัวที่มีความแตกแยกที่สุด เพราะต้องศิโรราบภายใต้อำนาจของตัวเมียอย่างเบ็ดเสร็จ ท่านผู้อ่านจะคิดเช่นไร


ลองไตร่ตรองพจนารถของพระผู้ทรงสร้าง ในซูเราะฮฺ อัลอันกะบูต อายะฮฺที่ 41 พระองค์ตรัสว่า


«?????? ????????? ??????????? ??? ????? ??????? ??????????? ???????? ????????????? ?????????? ??????? ??????? ???????? ?????????? ???????? ????????????? ???? ???????? ???????????»

ความว่า อุปมาบรรดาผู้ที่ยึดเอาอื่นจากอัลลอฮฺเป็นผู้คุ้มครอง อุปไมยดั่งแมงมุมที่ชักใยทำรัง และแท้จริงรังที่บอบบางที่สุดคือรังของแมงมุม หากพวกเขารู้

อัลลอฮฺได้อุปมาบรรดาผู้ที่ยึดเอารูปปั้น เจว็ดหรือสิ่งอื่นเป็นที่เคารพบูชาที่นอกจากอัลลอฮฺ โดยมีความเชื่อมั่นและความหวังว่าสิ่งบูชาเหล่านั้น จะให้คุณและให้โทษแก่พวกเขา อุปไมยดั่งแมงมุมที่ชักใยทำรัง โดยที่รังนั้นไม่สามารถให้ความคุ้มกันจากความร้อนและความหนาวและจากฝน ตลอดจนภยันตรายใด ๆ แก่มันเลย


ความเหมือนกันของการอุปมานี้คือ  1) ทั้ง ๆ ที่แมงมุม สามารถสร้างรังที่แข็งแรงที่สุดจากใยของมัน แต่กลับสร้างรังจากเส้นใยที่บอบบางที่สุด ซึ่งเปรียบเสมือนคนที่ยึดเอาสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮฺเป็นสิ่งบูชา ทั้ง ๆ ที่เขาสามารถยึดมั่นต่ออัลลอฮฺผู้ทรงเดชานุภาพ โดยที่ใยแมงมุมและสิ่งบูชานอกจากอัลลอฮฺนั้นไม่สามารถป้องกันจากภยันตรายแม้แต่น้อย และ  2) ความสัมพันธ์อันแตกร้าวในบ้านของแมงมุมมีความรุนแรงฉันใด ความสัมพันธ์ในครอบครัวของผู้ตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺก็จะรุนแรงอำมหิตฉันนั้น เป็นความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยการหลอกลวง ไม่มีความจริงใจ ช่วงชิงผลประโยชน์ และขาดความรักอันบริสุทธิ์ เมื่อทุกอย่างไม่ได้ดั่งใจปรารถนา ความอาฆาตพยาบาทก็จะมาแทนที่ และมักจะลงเอยด้วยฆาตกรรม แม้สมาชิกในครอบครัวเดียวกันก็ไม่ละเว้น ดังที่ปรากฏเป็นข่าวตามสื่อต่าง ๆ แทบทุกวัน


แต่ความอัศจรรย์ของโองการอัลกุรอานบทนี้ ไม่ใช่มีเพียงเท่านี้


ผู้ที่เรียนภาษาอาหรับเบื้องต้น จะทราบทันทีว่า ???????? (แมงมุม) ที่ปรากฏในอัลกุรอานนี้ เป็นตัวเมีย เพราะคำว่า ????? ซึ่งเป็นกริยามีเครื่องหมายที่ยืนยันว่าประธานต้องเป็นเพศหญิงเท่านั้น


นักวิทยาศาสตร์ยุคปัจจุบันเพิ่งค้นพบว่าแมงมุมตัวเมียเท่านั้นที่สามารถผลิตใยได้ และถือว่าเป็นการค้นพบสิ่งลึกลับที่น่าทึ่งที่สุด ทั้ง ๆ ที่อัลกุรอานได้เปิดเผยสัจธรรมนี้มาเป็นเวลานานกว่า 14 ศตวรรษแล้ว และเป็นที่รับรู้โดยทั่วกัน แม้กระทั่งผู้เรียนภาษาอาหรับเบื้องต้นก็ตาม


ทั้ง ๆ ที่ นบีมูฮัมมัด ไม่ใช่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแมงมุม และวิทยาการสมัยนั้นหรือก่อนหน้านั้นไม่น่าจะก้าวหน้าจนสามารถวิจัยเรื่องแมงมุมหรือมีการบันทึกในรายงานวิจัยเกี่ยวกับศาสตร์อันลี้ลับนี้เลย

ไม่ปรากฏในคัมภีร์ศาสนาเล่มใดก่อนหน้านี้ที่พูดถึงเรื่องแมงมุม หรือถ้ามี นบีมูฮัมมัดก็ไม่สามารถสืบค้นจากคัมภีร์ดังกล่าวได้ เพราะเป็นที่ทราบดีว่า นบีมูฮัมมัดเป็นคนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้

เป็นไปได้หรือที่อัลกุรอาน เป็นหนังสือที่คิดค้นโดยนบีมูฮัมมัด หรือเป็นคำพูดอันเพ้อเจ้อของ นบีมูฮัมมัด ตามคำใส่ไคล้ของบรรดาผู้ไม่หวังดี

มหาบริสุทธิ์แด่อัลลอฮฺ ผู้ทรงสร้างแมงมุม และทรงเปิดเผยความอัศจรรย์ของแมงมุมในคัมภีร์ของพระองค์

แมงมุมคือสัญญาณของอัลลอฮฺที่เป็นอลายลักษณ์ ในขณะที่อัลกุรอานคือสัญญาณของอัลลอฮฺที่เป็นลายลักษณ์ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง

แมงมุมคือสัญญาณของอัลลอฮฺที่เป็นปรากฏการณ์ ในขณะที่ อัลกุรอานเป็นสัญญาณของอัลลอฮฺที่เป็นหลักการ ซึ่งทั้งสองสัญญาณนี้จะไม่มีวันขัดแย้งกัน เพราะทั้งสองมาจากแหล่งเดียวกันคือ อัลลอฮฺ ผู้ทรงปรีชาญาณ

ที่สำคัญ การอุปมาครั้งนี้ น่าจะเป็นบทเรียนอันล้ำค่าแก่มนุษย์ และเป็นสิ่งย้ำเตือนสำหรับผู้ที่ตั้งภาคีกับอัลลอฮฺ ที่ยึดเอาสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮฺมาเป็นสิ่งเคารพบูชา เขาจะไม่มีวันพบกับความสุขที่แท้จริง และความโกลาหลวุ่นวายจะเกิดขึ้นในครอบครัวของเขาเป็นแน่แท้ หากเขาเลือกที่จะใช้ชีวิตเยี่ยงแมงมุม   จงไตร่ตรองเถิด โอ้ บรรดาผู้เรืองปัญญาทั้งหลาย ..

 


แหล่งอ้างอิง

อัลกุรอาน
http://ar.wikipedia.org
http://www.islamway.com
http://www.flh7.com/vb/t12397.html
http://www.swalif.net
www.mtec.or.th
http://www.thai-nano.com

 

Maintained by: e-Daiyah Group (1429 H - 2008).