Loading

 

มาถือศีลอดอาชูรออ์กันเถอะ

1. มุหัรร็อมและการถือศีลอด

    มุหัรร็อมเป็นเดือนแรกตามปฏิทินฮิจญ์เราะฮฺศักราช เป็นหนึ่งในบรรดาสี่เดือนต้องห้าม(อัชฮุร อัล-หุรุม) ซึ่งอิสลามได้ส่งเสริมให้มุสลิมถือศีลอดในเดือนดังกล่าว ท่านรอสูล ศ็อลลัลลอฮุ อลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวความว่า “การถือศีลอดที่ประเสริฐที่สุดหลังจากเดือนเราะมะฎอนคือการถือศีลอดในเดือนของอัลลอฮฺที่ต้องห้ามที่ชื่อว่าเป็นเดือนอัล-มุหัรร็อม” (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 1163) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การถือศีลอดในวันอาชูรออ์

2. ความหมายของอาชูรออ์

    อิมาม อัน-นะวะวีย์ กล่าวว่า “อุละมาอ์ส่วนใหญ่ทั้งรุ่นก่อนและรุ่นหลังต่างมีความเห็นพ้องกันว่า วันอาชูรออ์ คือวันที่สิบของเดือนมุหัรร็อม” (อัล-มัจมูอฺ 6/352)

3. ยิวกับการถือศีลอดวันอาชูรออ์

วันอาชูรออ์เป็นวันหนึ่งที่ชาวยิวให้ความสำคัญด้วยการถือศีลอด และถือว่าเป็นวันอีดวันหนึ่งของพวกเขา เพราะพวกเขาเชื่อว่าวันอาชูรออ์ตรงกับวันที่อัลลอฮฺได้ทรงทำให้นบีมูซาและชนเผ่าอิสราเอลรอดพ้นจากการจับกุมของฟิรเอาน์และทำให้ฟิรเอาน์และกองทหารจมน้ำทะเล ดังนั้นนบีมูซาจึงถือศีลอดเพื่อแสดงความขอบคุณต่ออัลลอฮฺ (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ หมายเลข 2004, 2005,3397,3943)

4. นะศอรอกับการถือศีลอดวันอาชูรออ์

    เช่นเดียวกับชาวนะศอรอ(คริสเตียน)ที่ให้ความสำคัญกับวันอาชูรออ์ด้วยการถือศีลอดในวันนั้น (บันทึกโดยมุสลิม 8/10) ส่วนเหตุผลนั้นอาจเป็นเพราะว่านบีอีซาเคยถือศีลอดในวันนั้นตามบัญญัติของนบีมูซาซึ่งยังไม่ถูกลบล้าง เพราะบัญญัติต่างๆของคริสต์ส่วนใหญ่จะรับมาจากคัมภีร์เตารอต (ฟัตหุลบารีย์ 4/291) วัลลอฮุ อะลัม

5. ชาวอาหรับกับการถือศีลอดวันอาชูรออ์

    ถึงแม้ว่าชีวิตความเป็นอยู่ด้านศาสนาของชาวอาหรับก่อนการเป็นรอสูลของนบีมุหัม มัดจะเต็มด้วยการบูชาเจว็ดรูปปั้นต่างๆ แต่ก็มีบางสถานที่และวันสำคัญที่พวกเขาเชิดชูและให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ในบรรดาวันสำคัญดังกล่าว คือวันอาชูรออ์ ซึ่งพวกเขาจะพากันถือศีลอดในวันนั้นอย่างพร้อมเพรียงกันและจัดงานฉลองอย่าง เอิกเกริก (บันทึกโดยมุสลิม 8/4 ดู ฟัตหุลบารีย์ 4/288)

6. อาชูรออ์ในบัญญัตของอิสลาม

    ในขณะที่ท่านรอสูล ศ็อลลัลลอฮุ อลัยฮิ วะสัลลัม พำนักอยู่ที่นครมักกะฮฺนั้น ท่านได้ถือศีลอดวันอาชูรออ์อย่างต่อเนื่องตามชาวกุเรช หลังจากที่ท่านได้ฮิจญ์เราะฮฺมายังนครมะดีนะฮฺท่านพบว่าชาวยิวก็ถือศีลอดใน วันอาชูรออ์เช่นเดียวกัน ดังนั้นท่านจึงสั่งให้บรรดาเศาะหาบะฮฺทำการถือศีลอดตามด้วย ซึ่งการถือศีลอดในช่วงนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่วาญิบสำหรับมุสลิมทุกคน จนกระทั่งฟัรฎูถือศีลอดเดือนเราะมะฎอนถูกประทานลงมาในปีที่สองแห่งฮิจญ์เราะฮฺศักราช ดังนั้นการถือศีลอดวันอาชูรออ์จึงกลายเป็นสุนนะฮฺมุอักกะดะฮฺเท่านั้นตามทัศนะของอุละมาอ์ส่วนใหญ่ (ดูอ้างอิงที่ผ่านมา)

7. ความสำคัญของวันอาชูรออ์

    ท่านรอสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อลัยฮิ วะสัลลัม ได้สั่งกำชับให้ประชาชาติมุสลิมถือศีลอดในวันอาชูรออ์เพื่อร่วมชุ โกรต่อเอกองค์อัลลอฮฺที่ทำให้นบีมูซาและชนเผ่าอิสราเอลรอดพ้นจากการถูกตามล่าของฟิรเอาน์และกองทหาร (บันทึกโดย มุสลิม หมายเลข 1130)

8. อิสลามต้องแตกต่างจากยิวและคริสต์

    การดะอฺวะฮฺของท่านรอสูล ศ็อลลัลลอฮุ อลัยฮิ วะสัลลัมในระยะแรกนั้น ท่านพยายามจะปฏิบัติให้สอดคล้องกับบัญญัติของยิวและคริสต์มากที่สุดเท่าที่ จะทำได้ แม้แต่ทรงผม เพื่อจะโน้มน้าวพวกเขาให้เข้ารับอิสลาม แต่แล้วท่านเห็นว่าวิธีการดังกล่าวไม่เกิดผลแต่อย่างใด ดังนั้นท่านจึงประกาศจุดยืนใหม่ด้วยการปฏิบัติศาสนกิจต่างๆที่ค้านกับบัญญัติของพวกเขา เช่นเดียวกับการถือศีลอดวันอาชูรออ์ ซึ่งชาวยิวและคริสต์จะถือศีลอดกันในวันอาชูรออ์หรือวันที่สิบของเดือนมุหัรร็อมวันเดียวเท่านั้น ดังนั้นท่านรอสูล ศ็อลลัลลอฮุ อลัยฮิ วะสัลลัม จึงสั่งให้ถือศีลอดเพิ่มก่อนหน้าวันที่สิบอีกหนึ่งวัน(วันที่เก้า) หรือหลังจากนั้นอีกหนึ่งวัน(วันที่สิบเอ็ด) เพื่อให้ค้านกับการปฏิบัติของชาวยิวและคริสต์ ท่านกล่าวความว่า “หากแม้นว่าฉันยังมีชีวิตถึงปีหน้า อินชาอัลลอฮฺ เราจะถือศีลอดกันในวันที่เก้า (อีกวันหนึ่ง)” (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 1134) “จงถือศีลอดในวันอาชูรออ์ และจงทำให้แตกต่างจากการถือศีลอดของชาวยิว ด้วยการถือศีลอดอีกวันหนึ่งก่อนวันอาชูรออ์หรืออีกวันหนึ่งหลังจากนั้น” (บันทึกโดย อะหฺมัด 1/241)

9. วิธีการถือศีลอดวันอาชูรออ์

    อุละมาอ์ได้วางลำดับความประเสริฐของการถือศีลอดวันอาชูรออ์ออกเป็นสามลำดับดังนี้คือ

    1. ถือศีลอดต่อเนื่องกันสามวัน คือวันที่ 9-11 ถือว่าเป็นถือศีลอดที่ประเสริฐที่สุด

    2. ถือศีลอดติดต่อกันเพียงสองวัน คือวันที่ 9-10 หรือ 10-11 ถือว่าเป็นการถือศีลอดที่มีความประเสริฐรองลงมา

    3. ถือศีลอดในวันอาชูรออ์หรือวันที่สิบวันเดียว ถือว่าเป็นการถือศีลอดที่มีความประเสริฐน้อยที่สุด(ดู ฟัตหุลบารีย์ 4/246, อัล-ฟะตาวา อัล-กุบรอ 2/68)

10. ความประเสริฐของการถือศีลอดวันอาชูรออ์

    การถือศีลอดในวันอาชูรออ์สามารถลบล้างบาป(เล็ก)ต่างๆสำหรับหนึ่งปีที่ผ่านมา (บันทึกโดย มุสลิม หมายเลข 1162)

11. ภารกิจอื่นจากการถือศีลอดในวันอาชูรออ์

    ไม่มีรายงานที่เชื่อถือได้ว่าในสมัยท่านรอสูล ศ็อลลัลลอฮฺ อลัยฮิ วะสัลลัม และบรรดาเศาะหาบะฮฺ ตลอดจนชนรุ่นแรกในหมู่สะลัฟ มีการปฏิบัติหรือส่งเสริมให้ปฏิบัติภารกิจอื่นจากการถือศีลอดในวันอาชูรออ์นี้ เช่นการกวนข้าวซูรอหรืออื่นๆ

    ดังนั้นท่านฟัยรูซฺ อะบาดีย์ กล่าวว่า “ได้มีหะดีษ (ที่ ถูกต้อง) ที่บ่งบอกถึงสุนนะฮฺให้ถือศีลอดในวันอาชูรออ์ ส่วนหะดีษอื่นๆ ที่เกี่ยวกับความประเสริฐของการละหมาดในวันอาชูรออ์ การให้ทาน การย้อมสีเคราและมือ การใส่น้ำหอมบนหัว การทาขนตาให้ดำ การหุงต้ม (เช่นการกวนซูรอ เป็นต้น) และอื่นๆ ล้วนเป็นหะดีษที่เมาฎูอฺและกุขึ้นมาทั้งสิ้น” (สิฟรุส สะอาดะฮฺ หน้า 150) วัลลอฮุ อะลัม

12. การเรียกร้องและเชิญชวน

    ถึงแม้การถือศีลอดในวันอาชูรออ์เป็นสุนนะฮฺมุอักกะดะฮฺ ตามทัศนะของอุละมาอ์ส่วนใหญ่ แต่ก็มีรายงานจากอิบนุ อับบาสกล่าวว่า “ฉัน ไม่เคยเห็นท่านรอสูล ศ็อลลัลลอฮุ อลัยฮิ วะสัลลัม ให้ความสำคัญกับการถือศีลอดมากกว่าวันนี้ หมายถึงวันอาชูรออ์ และการถือศีลอดในเดือนนี้ หมายถึงเดือนเราะมะฎอน” (บันทึกโดย อัล-บุคอรีย์ หมายเลข 2006)

    ท่านรอสูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับการถือศีลอดในวันอาชูรออ์เท่านั้น ซ้ำท่านยังมีคำสั่งให้บรรดาเศาะหาบะฮฺออกป่าวประกาศตามหมู่บ้านต่างๆให้ทุกคนถือศีลอดกันในวันอาชูรออ์อีกด้วย ด้วยคำกล่าวที่ว่า “จง ป่าวประกาศแก่ประชาชนว่า ผู้ใดที่ได้ทานอะไรลงไปแล้วก็จง(หยุดทานและ)ถือศีลอดในเวลาที่ยังเหลืออยู่ และผู้ใดที่ยังไม่ได้ทานอะไรลงไปก็จงถือศีลอดเสีย เพราะวันนี้คือวันอาชูรออ์” (อัล-บุคอรีย์ หมายเลข 2007) เช่นเดียวกับบรรดาเคาะลีฟะฮฺทั้งสี่ ซึ่งทุกท่านต่างให้ความสำคัญกับการถือศีลอดในวันอาชูรออ์เป็นอย่างมาก (เอาญะซุล มะสาลิก 5/96)

    ดังที่มีรายงานจากอุมัร บิน อัล-ค็อฏฏอบ ว่า ท่านได้ส่งตัวแทนให้ป่าวประกาศแก่ประชาชนว่า “พรุ่งนี้เป็นอาชูรออ์ ดังนั้นพวกเจ้าทั้งหลายจงถือศีลอดเสีย และจงสั่งกำชับให้ลูกเมียของพวกเจ้าถือศีลอดด้วย” (บันทึกโดย มาลิก หมายเลข 668)

    ท่านมุอาวิยะฮฺ บิน อบี สุฟยาน ได้กล่าวปราศรัยในวันอาชูรออ์หลังจากเทศกาลฮัจญ์ว่า “บรรดาอุละมาอ์ของพวกท่านอยู่ไหน? วันนี้ คือวันอาชูรออ์ อัลลอฮฺไม่ได้บังคับให้พวกเจ้าถือศีลอดในวันนี้ แต่ฉันเป็นคนที่ถือศีลอดในวันนี้ ดังนั้นผู้ใดในหมู่พวกเจ้าพอใจที่จะถือศีลอดก็จงถือเสีย และผู้ใดที่จะทานอาหาร(ไม่ถือศีลอด)ก็จงทานเสีย” (บันทึกโดย อัล-บุคอรีย์ หมายเลข 2003, มุสลิม หมายเลข 1129) วัลลอฮุ อะลัม

    สุบหานัลลอฮฺ ! ช่างน่าประหลาดใจยิ่งที่พี่น้องมุสลิมบ้านเราอีกหลายคนกลับเพิกเฉยและ ปฏิบัติภารกิจที่ค้านกับแบบอย่างที่ท่านรสูลและบรรดาเศาะหาบะฮฺของท่านได้ ยึดปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและจริงจังจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต ในขณะที่ท่านเหล่านั้นได้ป่าวประกาศเรียกร้องเชิญชวนอย่างจริงจังให้พี่น้องมุสลิมทำการถือศีลอดในวันอาชูรออ์...

    มาเถิด... เรามาร่วมกันถือศีลอดในวันอาชูรออ์อันประเสริฐนี้เผื่อว่าอัลลอฮฺจะทรง อภัยโทษต่อบาปต่างๆ ที่เราเคยปฏิบัติมาตั้งแต่หนึ่งปี่ผ่านมา...อามีน

 


ผู้เขียน : อุษมาน อิดรีส

ผู้ตรวจทาน : ซุฟอัม อุษมาน

จากเว็บไซต์ : http://www.islamhouse.com/p/57584

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Maintained by: e-Daiyah Group (1429 H - 2008).