Loading

 

เดือนที่ประตูแห่งความดีจะถูกเปิด

เมื่อเราต้องการที่จะได้รับความดี เราจะต้องอยู่ในทางนำของท่านนบี มุฮัมมัด ในการประพฤติปฏิบัติในช่วงค่ำคืนและในเวลากลางวันของเดือนรอมาฎอน เราจะต้องรักษาการถือศีลอด ตามรูปแบบที่ถูกต้อง เพราะว่านั่นคือประตูแห่งความดี

มีรายงานว่า ท่านรอซูลุลลอฮฺ ได้กล่าวแก่มุอ๊าซ อิบน ญะบัลลฺ ว่า ฉันจะบอกประตูแห่งความดีต่างๆให้ท่านจะเอาไหม ? มุอาซ กล่าวว่า เอาซิครับ โอ้ ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ท่านกล่าวว่า

  ((...?????? ?????? .))

“...และการถือศีลอดนั้น เป็นโล่ปองกัน...”(รายงานโดย ติรมิซียฺ ในซอฮี๊ฮฺของท่าน เลขที่ (2616) และกล่าวว่า เป็นฮะดีษ ฮะซัน ซอฮี๊ฮฺ )

เดือนที่ได้เรียนรู้ความอดทน

เดือนรอมฎอน เป็นโรงเรียนแห่งความอดทน ส่วนหนึ่งที่มีกล่าวไว้ในฮะดีษ คือ

 ((...??????????? ? ??????????? ?????... .))

“...และมันคือเดือน แห่งความอดทน และความอดทนนั้น ผลตอบแทนของมัน คือ สวรรค์...”(รายงานโดย อิบนุ คุซัยมะฮฺ ไว้ในซอฮี๊ฮฺของท่าน เลขที่ (1887) จากซัลมาน - ฮะดีษ มัรฟู๊อฺ)
เพราะฉะนั้นเราจะต้องแสวงหาประโยชน์จากเดือนรอมาฎอน ด้วยการฝึกฝนตัวของเราให้มีความอดทนอยู่เสมอ ทำการเชื่อฟังบทบัญญัติเท่าที่เรามีความสามารถ และละทิ้งสิ่งที่ทำให้สูญเสีย
อัลลอฮฺ ได้ทรงกล่าวชมเชยบรรดาผู้ศรัทธา ที่กระทำความดีและสั่งเสียกันด้วยสิ่งที่บรรดาบ่าวได้ใช้สั่งเสียกัน คือ ความจริง และความอดทน

อัลลอฮฺ ตรัสไว้ว่า

“ขอ สาบานด้วยเวลาอัศรว่า แท้จริง มนุษย์นั้นอยู่ในความขาดทุน นอกจากบรรดาผู้ที่ได้ศรัทธา ทำการงานที่ดีต่างๆ สั่งเสียกันในเรื่องความจริง และสั่งเสียกันในเรื่องความอดทน”(อัลอัศรฺ 1-3)

อบุล ฮะซัน อัซซออิฆ ถูกถามว่า อะไร คือสิ่งที่จำเป็นต่อบรรดาพี่น้อง เมื่อพวกเขามารวมตัวกัน ? ท่านกล่าวว่า
“ การสั่งเสียกันในเรื่องของความจริง และการสั่งเสียกันในเรื่องของความอดทน”

อัลลอฮฺ ตรัสไว้ว่า

"และพวกเจ้าจงสั่งเสียกัน ในเรื่องของความจริง และจงสั่งเสียกัน ในเรื่องของความอดทน”(อัลอัศรฺ 3)

และไม่เป็นที่สงสัยเลยว่า ผู้ที่มีความอดทนในการเคารพภักดีนั้นเขาอยู่ในกลุ่มของบรรดาผู้เป็นที่รักของอัลลอฮฺ ดังที่พระองค์กล่าวถึงพวกเขาไว้ในอัลกุรอานว่า

“...แล้วพวกเขาไม่ได้ย่อท้อต่อสิ่งที่ได้มาประสบกับพวกเขา ในหนทางของอัลลอฮฺและไม่ได้อ่อนแอ และไม่ได้ยอมแพ้ และอัลลอฮฺ นั้นทรง รักบรรดาผู้อดทน”(อาละอิมรอน 146)

และเช่น นั้นแหละ ความอดทนนั้น เป็นสิ่งหนึ่ง ที่อัลลอฮฺ ได้ทรงส่งเสริมเราะซูล ของพระองค์ ให้ยึดมั่นอยู่กับความอดทน สอนประชาชาติให้ได้รู้ถึงความประเสริฐของความอดทน

ดังคำตรัสของพระองค์ที่ว่า.
“และให้ตัวของเจ้าจงมีความอดทนพร้อมกับบรรดาผู้ที่วิงวอนขอต่อพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขาทั้งใน ยามเช้า และยามเย็นพวกเขาต้องการพระพักตร์ความพอพระทัยของพระองค์ และอย่าได้ปล่อยสองตาของเจ้าให้มองข้ามพวกเขาไป…”(อัลกะฮฺฟฺ 28)

อบู มุฮัมมัด อับดุลลอฮฺ อิบนุ มุฮัมมัด อัลมุรตะอิช เราะฮฺมะตุลลอฮิอะลัยฮฺ กล่าวไว้ว่า.

 (( ????? ????????? ?????????? ? ????: ????? ? ???????? ? ??????????? ? ???????? ????))

“การปรับปรุงการ ปฏิบัติต่อกันทั้งหมดนั้น ขึ้นอยู่กับสองสิ่งด้วยกัน คือ ความอดทน และความบริสุทธิ์ใจ การอดทนในการการปฏิบัติต่อกัน และการมีความบริสุทธิ์ใจในการในการปฏิบัติต่อกัน”

ดังนั้น จึงจำเป็นที่ผู้ศรัทธาจะต้องมีความอดทน และจำเป็นจะต้องศรัทธามั่นต่ออัลลอฮ พวกเขาจะต้องอดทนในการเคารพภักดีตามรูปแบบที่ถูกต้อง และอดทนในการไม่ทำการฝ่าฝืน และหลีกเลี่ยงให้พ้นจากสิ่งชั่วร้าย เพื่อที่จะได้ไม่ตกอยู่ในความโกรธกริ้วของผู้ทรงรอบรู้ในสิ่งเร้นลับอยู่ ตลอดเวลา ความอดทนนั้นในความเป็นจริง คือ การมั่นคงอยู่กับบทบัญญัติต่างๆของอัลกุรอาน และซุนนะฮ์ และการยึดมั่นต่อพระองค์อัลลอฮ์ เพื่อให้พระองค์เป็นผู้ที่คอยปกป้องจากการเผลอเรอ การฝ่าฝืน การทำอุตริกรรม และความหลงผิดต่างๆ

กลิ่นปากจากการถือศีลอดหอมยิ่งกว่ากลิ่นชะมดเชียงเสียอีก

ท่านร่อซูลุลลอฮฺ กล่าวไว้ว่า.

 ((...????? ?? ?????? ???? ??? ???? ?? ??? ?????...))

“...แน่ นอนกลิ่นปากของผู้ถือศีลอด ณ อัลลอฮฺ นั้น หอมยิ่งกว่ากลิ่น ชะมดเชียงเสียอีก...”(รายงานโดย บุคคอรี ในซฮฮี๊ฮฺของท่าน เลขที่ 1904)

ท่านนบี มุฮัมมัด กล่าวว่า การงาน อายุขัยต่างๆนั้น เมื่ออยู่ในการเชื่อฟังอัลลอฮฺ แน่นอน ผลของมันนั้น จะดี ถึงแม้บางคนจะเห็นเป็นอย่างอื่น และการถือศีลอดนั้น ตามธรรมชาติแล้ว จะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงในกลิ่นของปาก และร่างกาย พร้อมกันนั้น อัลลอฮฺ ได้ทรงให้เกียรติแก่ผู้ถือศีลอด โดยประทานความเมตตาของพระองค์ ให้แก่เขา อย่างชัดเจน แล้วทรงรับผลต่างๆที่ตามมาของการถือศีลอด เช่น กลิ่นปาก และทำให้มันเป็นความดีเป็นเหมือนน้ำหอม หรือเป็นน้ำหอมที่ดีที่สุด เพื่อที่จะส่งเสริมประชาชาติให้ได้รับผลบุญของการเชื่อฟัง ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงสภาพบางสิ่งบางอย่างในภายนอกก็ตาม และสอนให้ประชาชาติได้ทราบว่า ความคิดต่างๆนั้นขึ้นอยู่ ณ ที่ อัลลอฮ์ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับมนุษยทั้งหลาย

อัลลอฮ์ ตรัสไว้ว่า.

“ยังพระองค์คือ ที่กลับของพวกเจ้าทั้งหมด สัญญาของอัลลอฮ์ นั้น เป็นความจริงแท้จริง พระองค์ทรงเริ่มสร้าง แล้วให้มันกลับมาอีกครั้ง เพื่อจะได้ตอบแทนแก่บรรดาผู้ที่ศรัทธาและปฏิบัติกรรมดีต่างๆด้วยความ ยุติธรรม...”(ยูนุส 4)

“แท้จริง การกลับไปของพวกเขาจะมีมายังเรา หลังจากนั้น แท้จริง การสอบสวนพวกเขา เป็นหน้าที่ของเรา”(อัลฆอชิยะฮฺ 25-26)


เขียนโดย...ดร.อับดุลกุ๊ดดู๊ซ อิบนุ อุซามะฮฺ อัซซามัรรออียฺ

ที่มา: http://www.islammore.com/main/content.php?page=sub&category=4&id=1303

Maintained by: e-Daiyah Group (1429 H - 2008).