Loading

 

ยังไม่ถึงเวลากลัวอัลลอฮ์ หรือ...!

ในอัล-กุรอานได้มีอายะฮ์หนึ่งที่ผู้ไม่มีความรับผิดชอบในหน้าที่อ่านแล้วทำให้เขาสำนึกตัว ยอมรับความผิดพลาด ความไม่แยแสต่อหน้าที่ ผู้ที่หลงลืมอ่านแล้วจะตื่นตัว ผู้ที่เคยกระทำความผิดอ่านแล้วจะไม่ยอมหวนกลับปฏิบัติอีกแล้ว นั่นคืออายะฮ์ทีความว่า

ألَمْ يأْنِ لِلذينَ آمَنوا أن تخْشَعَ قلوْبُهم لِذِكْرِ الله وما نزَلَ من الحقِ ولا يكونوا كالَّذينَ أُوتُو الكِتابَ مِن قبْلُ فطالَ عليهِمُ الأمَدُ فقَسَت قلُوبَهم وكَثيرٌ منْهم فاسِقون (الحديد/16)

“ยังไม่ถึงเวลาอีกหรือสำหรับบรรดาผู้ศรัทธาที่หัวใจของพวกเขาจะนอบน้อมต่อการรำลึกถึงอัลลอฮฺ และสิ่งซึ่งได้มีลงมา คือ ความจริง

และพวกเขาอย่าได้เป็นเช่นบรรดาผู้ที่ได้รับคัมภีร์มาแต่ก่อนนี้ แล้วช่วงเวลาได้เนิ่นนานเกินไปแก่พวกเขา

ดังนั้นจิตใจของพวกเขาจึงแข็งกระด้างและส่วนมากของพวกเขาจึงเป็นผู้ฝ่าฝืน”

เป็นการปรามบรรดาผู้ศรัทธาว่า ยังไม่ถึงเวลาอีกหรือที่พวกเขาจะมีหัวใจที่นอบน้อมต่อการรำลึกถึงอัลลอฮฺ สัญญาดีและสัญญาร้ายของพระองค์ และอย่าได้เป็นเช่นพวกยะฮูด พวกนะศอรอ ที่อัลลอฮ์ ทรงประทานคัมภีร์เตารอห์และอินญีลให้แก่พวกเขา ครั้นเวลาได้ลวงเลยมาเป็นเวลานานระหว่างพวกเขากับบรรดานบีของพวกเขา ดังนั้น จิตใจของพวกเขาจึงแข็งกระด้างด้วยการวุ่นอยู่แต่ในเรื่องของโลกดุนยาพวกเขาจึงกลายเป็นผู้ฝ่าฝืน ไม่เชื่อฟังและจงรักภักดีต่ออัลลอฮ์ ปฏิเสธและไม่สนใจต่อข้อใช้ข้อห้ามของศาสนา
นักอรรถาธิบายอัล-กุรอานได้อธิบายอายะฮ์นี้ไว้ว่า เวลาได้ถึงมาแล้วสำหรับบรรดามุอฺมินที่จะทบทวนตัวเอง ตั้งสติ มองดูผลงานที่ดีงามและผลงานที่เลว เมื่อรู้ว่าผลงานที่ดีงามยังน้อยอยู่พยายามให้ใกล้ชิดกับพระองค์อัลลอฮ์ ให้มากขึ้น เพราะคำเตือนจากอัล-กุรอานได้ผ่านมามากมายแล้ว และมีผู้อธิบายอายะฮ์นี้ไว้ว่า ยังไม่ถึงเวลาหรือที่บรรดาชาวคัมภีร์เตารอฮ์(คือชาวยิว) และชาวคัมภีร์อินญีล(ชาวคริสต์)ที่จะเกรงขามและนอบน้อมยอมรับคัมภีร์อัล-กุรอาน เพื่อไม่ให้พวกเขาเป็นผู้ตามนบีมูซา และตามนบีอีซา ในยุคแรก ๆ แต่ต่อมาเวลาได้ล่วงเลยไปมากทำให้หัวใจของพวกเขาแข็งกระด้าง ไม่สามารถยอมรับคัมภีร์อัล-กุรอานได้

สาเหตุของการประทานอายะฮ์นี้ช่วยให้เราเข้าใจความหมายลึกซึ้งไปอีก อิมามกุรฏุบีย์รายงานว่า เมื่อบรรดาเศาะหาบะฮ์ได้อพยพไปอาศัยที่นครมะดีนะฮ์ พวกเขารู้สึกสบายอกสบายใจ ไร้ความกดดันและการขู่เข็ญ มีการหัวเราะกัน สนุกสนาน เฮฮากันอย่างแพร่หลาย จึงทำให้พระองค์อัลลอฮ์ ตักเตือนพวกเขาด้วยอายะฮ์นี้ และท่านเราะสูล ได้กล่าวว่า แท้จริงพระองค์อัลลอฮ์ทรงตั้งใจจะค่อย ๆ สั่งให้พวกเจ้าสำรวมตน

บทสรุปจากอายะฮ์

1. อายะฮ์ใช้ให้เรามีความสำรวมตน รำลึกถึงความโปรดปรานของพระองค์และเตือนมิให้เราเป็นเสมือนคนยุคก่อน ๆ ที่เมื่อมีน้ำฝนตกลงมา พวกเขาไม่ตักตวงเก็บน้ำฝนนั้นไว้เพื่อเป็นประโยชน์ในการเพาะปลูก

2. อายะฮ์เตือนมิให้บรรดามุอฺมินนิ่งเฉย เดียวดาย ไม่ตอบสนองกับอายะฮ์ที่ประทานลงมา หัวใจที่ไม่ตอบสนองอายะฮ์อัล-กุรอานหมายถึงหัวใจที่แข็งกระด้าง และหัวใจแข็งกระด้างคือหัวใจที่ปฏิเสธพระองค์อัลลอฮ์

3. หัวใจของมนุษย์ควรเป็นหัวใจที่อ่อนไหว อ่อนโยน นอบน้อม เกรงกลัวและร้องไห้บ่อยครั้งยอมรับความยิ่งใหญ่ของพระองค์

พระองค์ได้ตรัสไว้ความว่า

فلْيضْحَكوا قليلاً ولْيبْكوا كثيراً جزاءً بِما كانوا يكْسِبون (التوبة/82)

“พวกเขาจงหัวเราะแต่น้อย และจงร้องไห้มาก ๆ เถิด (กล่าวคือที่พวกเขาจะถูกลงโทษนั้นก็มิใช่อื่นใด เป็นเพียงการตอบแทนตามที่พวกเขากระทำเท่านั้น)”

ดังนั้น โอ้ บรรดาผู้บูชาเจว็ดทั้งหลาย ถึงเวลาแล้วที่พวกท่านทั้งหลายจะเปลี่ยนกลับมาบูชาพระองค์อัลลอฮ์ องค์เดียว

พระองค์ได้ตรัสไว้ความว่า

يا أيُّها النَّاسُ اعْبُدوا ربَّكمُ الَّذي خلَقَكمْ والَّذي مِن قبْلِكم لعلَّكم تتَّقون ن الَّذي جعَلَ لكمُ الأرْضَ فِراشاً والسَّماءَ بِناءً وأنْزَلَ مِن السَّماءِ ماءً فأخْرَجَ بِه مِنَ الثَّمَراتِ رزْقاً لكُم فلا تجْعلوا للهِ أنْداداً وأنتُم تعْلَمون (البقرة/21)


“มนุษย์เอ๋ย ! จงเคารพภักดีพระผู้เป็นเจ้าของพวกเจ้าที่ทรงบังเกิดพวกเจ้า และบรรดาผู้มาก่อนพวกเจ้าเถิด เพื่อว่าพวกเจ้าจะยำเกรง

คือผู้ทรงให้แผ่นดินเป็นที่นอนและฟ้าเป็นอาคารแก่พวกเจ้า และทรงให้น้ำหลั่งลงมาจากฟากฟ้า

แล้วได้ทรงให้บรรดาผลไม้ออกมาเนื่องด้วยน้ำนั้น

ทั้งนี้เพื่อเป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า ดังนั้น พวกเจ้าจงอย่าให้มีผู้เท่าเทียมใด ๆขึ้นสำหรับอัลลอฮ์ โดยที่พวกเจ้าก็รู้กันอยู่”


โอ้ บรรดาผู้บูชาอารมณ์ตนเอง โดยยอมตามทุกสิ่งทุกอย่างที่อารมณ์ฝ่ายต่ำชอบ ได้เวลาแล้วหรือยังที่จะหักห้าม ขัดขืน ไม่ยอมตามอารมณ์แล้วกลับมานอบน้อม ยอมจำนนต่ออัลลอฮ์ ผู้ทรงเตรียมสวนสวรรค์สำหรับผู้ที่ตามคำสอนของพระองค์ และเตรียมไฟนรกไว้สำหรับผู้ที่เนรคุณต่อพระองค์

พระองค์ได้ตรัสไว้ความว่า

فإنْ لم يسْتَجِيبوا لَك فاعْلَم أنَّما يتَبِعونَ أهْواءَهم وَمَن أضَلُّ مِمَّنِ اتَّبَهَ هَواهُ بغيْرِ هُدًى مِن اللهِ (القَصَص/50)

“หากพวกเขาไม่ยอมสนองตอบเจ้า ก็พึงรู้เถิดว่า แท้จริงพวกเขาปฏิบัติตามอารมณ์ต่ำของพวกเขาเท่านั้น

และผู้ใดเล่าจะหลงยิ่งไปกว่าผู้ปฏิบัติตามอารมณ์ต่ำของเขา โดยปราศจากแนวทางและหลักฐานที่ถูกต้องจากอัลลอฮ์”

โอ้ บรรดาผู้ที่ยังลังเลใจจะบูชาอะไรดี ถึงเวลาแล้วที่ท่านทั้งหลายจะยอมรับพระองค์อัลลอฮ์ และปฏิบัติตามบัญชาที่พระองค์ทรงสั่งสอนทุกประการในชีวิตประจำวัน เพื่อรำลึกถึงบุญคุณที่พระองค์ทรงมอบให้

พระองค์ทรงตรัสไว้ความว่า

إنْ يتَّبِعونَ إلاَّ الظَّنَّ وما تهْوَى الأنْفُسُ ولقَدْ جاءَهمُ الهُدى (النجم/23)

“พวกเขามิได้ปฏิบัติตามสิ่งใดนอกจากการคาดคะเน และสิ่งที่อารมณ์ปรารถนา

และโดยแน่นอน แนวทางที่ถูกต้อง(ฮิดายะฮ์)จากพระเจ้าของพวกเขาได้มีมายังพวกเขาแล้ว”

โอ้ บรรดาผู้ศรัทธาในพระองค์อัลลอฮ์ แต่ในบางครั้งบางคราว พวกเขาแพ้อารมณ์ของตนเอง โดยที่พวกเขาประกอบความดีปะปนกับความชั่วบ้าง ได้เวลาแล้วที่พวกเขาทั้งหลายจะกลับเนื้อกลับตัว ยอมรับและสารภาพผิดก่อนที่วิญญาณจะถึงคอหอย

พระองค์ได้ตรัสไว้ความว่า

وآخَرونَ اعْتَرَفوا بِذنُوبِهم خلَطوا عملاً صالِحاً وآخَرَ سيِّئاً عسى اللهُ أن يتوبَ عليهِم (التوبة/102)

“และมีชนกลุ่มอื่นที่สารภาพความผิดของพวกเขา โดยที่พวกเขาประกอบกรรมดีปะปนไปกับงานที่ชั่ว หวังว่าอัลลอฮ์จะทรงอภัยโทษให้แก่พวกเขา”


เขียนโดย: อ. อับดุลเราะมัน เจะอารง

ลิ้งก์ที่มา: http://www.islammore.com/main/content.php?page=news&category=4&id=2328

Maintained by: e-Daiyah Group (1429 H - 2008).