Loading

 

จงเตรียมตัวสำหรับวันกิยามะฮฺ

ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้บอกกับเราไว้ว่า “ในวันกิยามะฮฺเท้าของบ่าวจะยังไม่ถูกเคลื่อนย้ายไป จนกระทั่งจะถูกถามถึง 4 ประการ ถูกถามถึงอายุของเขา ถูกใช้ให้หมดไปอย่างไร? ถูกถามถึงวัยหนุ่ม – สาว ว่าใช้ให้หมดไปกับอะไร ? ถูกถามถึงทรัพสมบัติว่าหามาได้จากแหล่งใด ? และใช้ให้หมดไปกับอะไร ? และถูกถามถึงความรู้ว่าได้ปฏิบัติต่อสิ่งที่ได้เรียนรู้มาอย่างไร ?” (อัตติรมีซีย์)


บรรดาสาวกของท่านรอซูล (ศอฮาบะฮฺ) และบรรดาคนดี ๆ ในยุคแรก (สะลาฟุศศอลิหฺ) ต่างมั่นคงมุมานะอยู่กับการตัรบียะฮฺ(ขัดเกลา)จิตวิญญาณ พวกเขาจะเป็นผู้ที่ทบทวนตรวจสอบตนเองมากกว่าใคร ๆ จากบรรดามนุษยชาติ ดังตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดอีกตัวอย่างหนึ่งในเรื่องนี้ ที่เราควรได้รับรู้ คือ ท่านอุมัร บินค็อฎฎอบ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เคาะลีฟะฮฺผู้ทรงธรรม ครั้งหนึ่งท่านได้กล่าวว่า “จงตรวจสอบตัวของพวกท่านก่อนที่จะถูกตรวจสอบ จงชั่งการงานของพวกท่านก่อนที่มันจะถูกนำมานั่ง จงเตรียมตัวเผชิญหน้ากับวันอันยิ่งใหญ่(กิยามะฮฺ) ซึ่งพวกท่านไม่สามารถปกปิดซ่อนเร้นสิ่งใดไว้ได้”


อุละมาอ์ท่านหนึ่งได้กล่าวว่า “ผู้ที่สอบสอนตนเองอย่างหนักในโลกดุนยานี้ การสอบสวนของเขาในวันอาคิเราะฮฺจะเบาบางลง”


เมื่อมนุษย์ได้เอาใจใส่ตรวจสอบตัวเองอยู่เสมออย่างทันทีทันใด หรือทุกวัน หรือทุกสัปดาห์ เขาก็จะทราบถึงระดับปริมาณของความสำเร็จจากคุณธรรมความดีงามต่าง ๆ ที่เขาได้กระทำต่อพระองค์อัลลอฮฺด้วยตัวของเขาเอง และเขาจะกระหายที่จะทำความดีงามนั้นให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น พลังอีมานในตัวของเขาก็จะแรงกล้าเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว เขาจะเป็นผู้ที่ทราบถึงขนาดของความบกพร่องในสิทธิที่พึงมีต่ออัลลอฮฺ เขาจะลงทัณฑ์ตัวของเขาเองในสิ่งที่พลาดพลั้ง จะกลับเนื้อกลับตัว จะขออภัยโทษพร้อมทั้งจัดเตรียมสินค้าใหม่ให้ดูสวยงาม และทำพันธะสัญญาต่ออัลลอฮฺว่าจะไม่หวนกลับไปสู่การกระทำความผิดนั้นอีกต่อไป
ในวันที่ความเสียใจจะไม่ยังประโยชน์อันใด


มุมินจะมีความรู้สึกปลื้มปีติยินดีอย่างล้นพ้น ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถจะอธิบายได้อย่างถี่ถ้วนในวันที่เขาได้เป็นผู้รับบัญชีของเขาด้วยมือขวา ส่วนกาฟิรจะระทมทุกข์เศร้าโศกเสียใจอย่างยากที่จะหาความทุกข์ใดมาเปรียบได้ ในวันที่พวกเขาได้รับบัญชีแห่งการกระทำของพวกเขาด้วยมือข้างซ้าย และความโศกเศร้าอาดูรของพวกเขาก็มิยังประโยชน์ใด ๆ ให้แก่พวกเขา


ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ยังได้ฉายให้เห็นถึงสภาพของมนุษย์ ณ วันที่ถูกสอบสวนในโลกแห่งอาคิเราะฮฺ ขณะที่เผชิญหน้าอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ของพระองค์ ซึ่งมีใจความว่า “เหงื่อของมนุษย์จะมีปริมาณตามการงานของพวกเขา ส่วนหนึ่งจากพวกเขาเหงื่อจะท่วมถึงตาตุ่ม ส่วนหนึ่งท่วมถึงหัวเข่า ส่วนหนึ่งท่วมถึงหัวไหล่ และส่วนหนึ่งเหงื่อจะท่วมจม และท่านรอซูลุลลอฮฺได้เอามือของท่านชี้ไปยังปาก” (โดยมุสลิม)


หากเราลองสงบนิ่ง ปิดตา และมโนภาพดูถึงวันแห่งการสอบสวน ถึงเวลาที่ต้องยืนเผชิญอยู่เบื้องหน้าพระพักตร์ของอัลลอฮฺ อยู่เบื้องหน้าตาชั่ง อยู่ในโลกที่ต้องรับผลการตอบแทนจากผลการกระทำ โลกที่เป็นนิจนิรันดร์ สวนสวรรค์กับขุมนรกคือสิ่งตอบแทนแห่งข้อตัดสินจากการกระทำของตัวเราเอง ในวันนั้นผู้อธรรมก็ต่างพยายามกล่าวอ้างเหตุผลแก้ตัวปกป้องตน ถึงผลการกระทำต่าง ๆ ที่เขาได้พลาดพลั้งไป และยืนยันด้วยพลังเสียงอันหนักแน่นว่าจะกลับเนื้อกลับตัว ขออภัยโทษอย่างจริงจัง พร้อมทั้งให้สัญญาต่อพระองค์ว่ากระทำคุณงามความดีในทุกรูปแบบที่อิสลามได้แนะนำไว้ จนกระทั่งถึงขั้นที่เขาเข้าเฝ้าพบอัลลอฮฺด้วยกับหัวใจที่สงบนิ่ง บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ... ทว่า ณ วันนั้น หามีประโยชน์อันใดไม่ ต่อน้ำคำให้การอ้วนวอน ต่อคำสัญญาของพวกเขา...ณ วันนั้นการบันทึกการงานได้สิ้นสุดลงแล้ว … บัญชีได้ปิดลงแล้ว … เหลือไว้แต่เพียงการตอบแทนถึงผลการกระทำ!!!


อัลกุรอานได้กล่าวถึงสภาพความแตกต่างกันของผู้คนในวันนั้น ความว่า “ จนกระทั่งความตายได้มาหาคนใดในพวกเขา เขาก็จะกล่าวขึ้นว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงให้ข้าพระองค์กลับไปมีชีวิตอีกครั้งหนึ่งเถิด . เพื่อข้าพระองค์จะได้กระทำความดีในสิ่งที่ข้าพระองค์ได้ปล่อยทิ้งไว้ เปล่าเลย มันเป็นเพียงถ้อยคำที่เขากล่าวมันไว้เท่านั้น และเบื้องหน้าของพวกเขานั้นมีโลกบัรซัค(โลกในหลุมฝังศพ) จนกระทั่งถึงวันที่พวกเขาจะถูกฟื้นคืนชีพขึ้นมา . ดังนั้นสังข์ได้ถูกเป่าขึ้น ดังนั้นจะไม่มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติระหว่างพวกเขาในวันนั้น และพวกเขาจะไม่ไต่ถามซึ่งกันและกัน . ดังนั้นผู้ใดตราชูของเขาหนัก ชนเหล่านั้นพวกเขาเป็นผู้ประสบชัยชนะ . และผู้ใดตราชูของเขาเบา เขาเหล่านั้นคือ บรรดาผู้ที่ทำให้ตัวของพวกเขาขาดทุน พวกเขาจะพำนักอยู่ในนรกตลอดกาล . ไฟนรกจะเผาไหม้ใบหน้าของพวกเขา และพวกเขาจะมีใบหน้าที่บูดเบี้ยวในนรกนั้น . โองการทั้งหลายของเรามิได้ถูกนำมาอ่านแก่เจ้าดอกหรือ แล้วพวกเจ้าก็ปฏิเสธไม่ยอมเชื่อมัน . พวกเขากล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของเราความชั่วช้าเลวทรามของพวกเราได้เข้ามาครอบงำพวกเรา และพวกเราเป็นหมู่ชนผู้หลงทาง . ข้าแต่พระเจ้าของเรา ขอพระองค์ทรงโปรดเอาพวกเราออกจากนรกด้วยเถิด ถ้าหากเรากลับไปทำความชั่วช้าอีก แน่นอนเราก็เป็นพวกอธรรม . พระองค์ตรัสว่า พวกเจ้าจงตะเพิดไปจมอยู่ในนั้นเถิด และพวกเจ้าอย่าได้พูดกับข้าเลย” (อัลมุอ์มินูน/99 -108)


ดังนั้น ผู้ศรัทธาทั้งหลาย อย่าได้ประวิงเวลาไว้เลย ไม่มีเหตุผลเหมาะสมอันใดที่จะมากล่าวอ้างมิให้ท่านตรวจสอบตนเอง ... จงตรวจสอบตัวของท่านเถิด ก่อนที่ท่านจะถูกสอบสวน จงกลับเนื้อกลับตัวของท่านเถิด ก่อนที่จะไม่มีโอกาสกลับเนื้อกลับตัว จงเกรงกลัวต่อไฟนรกของอัลลอฮฺเถิด จงละทิ้งในสิ่งที่อิสลามได้สั่งห้ามและจงรีบเร่งกระทำในสิ่งที่อิสลามได้สั่งใช้ส่งเสริมให้กระทำเถิด หากท่านคือผู้หนึ่งที่มีความหวังว่าจะได้พบกับพระองค์ด้วยการงานที่ดี อิบาดะฮฺที่เปี่ยมล้นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ หากท่านคือผู้หนึ่งที่มีความหวังว่าจะได้พบกับพระเจ้าแห่งชีวิตของท่านในฐานะของชาวสวรรค์


“ดังนั้นผู้ใดหวังที่จะพบพระผู้เป็นเจ้าของเขา เขาจงประกอบการงานที่ดีและอย่าได้ตั้งผู้ใดเป็นภาคีในการเคารพภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้าของเขาเลย” (อัลกะฮฺฟี/110)

 


เรียบเรียงโดย ยูซุฟ อบูบักรฺ

 

Maintained by: e-Daiyah Group (1429 H - 2008).